หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2567

วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 เวลา 05:40 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2567

>> จับแก๊งค้ายาบ้าลอบขนจากริมโขง ของกลาง 8 แสนเม็ด

10.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 67 นาวาเอก ณฐพัฒน์ ซื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (รองผบ.นรข.) พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงสั่งการชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสถานีเรือมุกดาหาร เพื่อร่วมกันวางแผน ปฏิบัติการสกัดกั้นและจับกุม โดยได้จัดกำลังดักซุ่มเฝ้าตรวจอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.หว้านใหญ่ เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ รวมถึงจัดวางกำลังตามเส้นทางคมนาคม ที่คาดผู้กระทำผิดจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี

กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้ามาในพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงที่เจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่จึงสังเกตเห็นว่ามีการลำเลียงถุงกระสอบขึ้นรถ จำนวน 2 ถุง เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าตรวจริมฝั่งโขงจึงได้แจ้งข้อมูลของรถดังกล่าวให้กับชุดที่วางกำลังตามเส้นทางคมนาคม เพื่อติดตาม พบรถต้องสงสัยดังกล่าวบริเวณถนนหมายเลข 3010 ใกล้กับสี่แยก ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงเรียกรถดังกล่าวให้จอด พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อขอเข้าตรวจสอบ เมื่อรถหยุดเจ้าหน้าที่จึงได้ให้คนขับรถลงจากรถ ทราบชื่อคือนายพรชัย (นามสมมุต) อายุ 27 ปี ภายในรถกระบะฟอร์ด 4 ประตูสีขาวหมายเลขทะเบียน จ.บุรีรัมย์ เมื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบถุงกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงิน จำนวน 6 กระสอบ รวมยาบ้าประมาณ 800,000 เม็ด จึงได้ยึดของกลางทั้งหมด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> หนุ่มหนุ่มเบญจเพสหูแว่วมีคนตาม กระโดดจากสถานีรถไฟฟ้าดับสลด

11.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ได้รับแจ้งชายกระโดดสถานีรถไฟฟ้าลงมาเสียชีวิต ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนพหลโยธิน ขาเข้า ช่วงสถานีรถไฟฟ้าพิพิธภัณฑ์ทหารอากาศ พบศพนายนิธิ อายุ 25 ปี มีบาดแผลศีรษะแตก ร่างกาย แขน ขาหักผิดรูป

โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้วิ่งขึ้นมาบนสถานีรถไฟฟ้า โดยไม่ถอดหมวกกันน็อก จากนั้นได้ซื้อตั๋วเพื่อที่จะไปลาดพร้าว เมื่อได้ตั๋ว ผู้ตายก็เดินเข้าไปด้านใน จากนั้นเจ้าหน้าที่ขายตั๋วได้สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วยดู ไม่นานก็มีคนวิ่งขึ้นมาบอกช่วยจับผู้ตายไว้ก่อน เพราะเขาน่าจะหูแว่วว่ามีคนตาม จึงช่วยกันวิ่งตาม แต่ผู้ตายกลับกระโดดลงไปในรางรถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตัดกระแสไฟ จากนั้นผู้ตายปีนขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าแล้วทิ้งตัวลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นได้นำศพส่งชันสูตรก่อนมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

>> กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำลูกเสือโคร่ง ส่งเลี้ยงบึงฉวาก เตรียมเรียกค่าดูแลตามกฎหมาย กว่า 1.3 ล้านบาท

12.30 น. จากกรณี ลูกเสือโคร่งหลุดออกมาเดินอยู่ในชุมชน ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงดึกของวันที่ (16 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยเจ้าของได้อ้างว่าเป็นลูกสิงโตผสมเสือโคร่ง หรือ "ไลเกอร์" และได้มีการเพ้นต์สีให้เหมือนเสือเพื่อเข้าฉากถ่ายทำภาพยนตร์นั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ตรวจยึดเสือโคร่งจากผู้ที่ระบุว่าเป็นเจ้าของคือ นายโยธิน (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่หลุดออกมาในชุมชนและไม่ใช่ "ไลเกอร์" แต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองของทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิป) ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนายโยธิน ผู้ครอบครองลูกเสือโคร่ง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขออนุมัติพนักงานสอบสวน นำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก)มาดูแลต่อ ทั้งนี้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งชื่อให้กับลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวว่าน้อง "นีน่า"

นอกจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังเตรียม เรียกค่าดูแลลูกเสือโคร่งจากผู้ระบุว่าเป็นเจ้าของเสือ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องดูแลเสือโคร่งมากกว่า 10 ปี เป็นเงิน 1,394,000 บาท

>> สืบนครบาล รวบคู่หูศรีนครินทร์ขายอาวุธปืนเถื่อนดัดแปลงผ่านโซเชียล

13.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล เข้าจับกุมนายภพ อายุ 19 ปี และนายสอน อายุ 22 ปี จับกุมบริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด 380 มม. 1 กระบอก , เครื่องกระสุนปืน ขนาด 380 มม. 3 นัด , ซองกระสุน(แม๊กกาซีน) 1 ซอง , ซองพกอาวุธปืนสีดำ 1 ซอง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ โดยพบว่ามีการใช้บัญชีเฟซบุ๊กได้เสนอขาย อาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด 380 มม. ในราคา 15,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับอาวุธปืนและจ่ายเงินกัน บริเวณในปั๊มน้ำมัน ถนนศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนการล่อซื้อจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

>> นายกฯเศรษฐา สวมชุดผ้าขาวม้าเดินกลางมิลาน เผยดูอินเตอร์ ไม่อายใคร

14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐอิตาลี) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นำคณะสวมชุดผ้าขาวม้า เดินโชว์กลางเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ก่อนออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังโรงงานผลิตชีส เมืองปาร์มา เพื่อหาโอกาสความร่วมมือระหว่างไทยอิตาลี

ทั้งนี้นายเศรษฐาฯ กล่าวว่า เสื้อที่สวมในวันนี้ ทำมาจากผ้าขาวม้า 2-3 ผืน เนื่องจากผ้าขาวม้าบางผืนไม่พอ เนื่องจากตนเป็นคนตัวใหญ่ จึงต้องใช้ 2 ผืน ซึ่งตนมองว่าดูอินเตอร์ ไม่ได้อายใคร ซึ่งครั้งที่ผ่านมาเป็นผ้าพันคอ อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำผ้าขาวม้ามาแปรรูปได้ ทั้งผ้าพันคอ หมวก กางเกงขาสั้น หรือเสื้อที่ใส่ออกมาก็ดูสวย ซึ่งถือเป็นไอเดียในการแปรรูปสินค้าเพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น ไม่ใช่ขายเพียงแค่ผ้าเฉยๆ

เมื่อถามว่าในการเยือนต่างประเทศหรือไปประชุมครั้งถัดไป จะนำผ้าขาวม้าไปโปรโมทในลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ต้องขออุบไว้ก่อน เพราะแต่ละพื้นที่มีลักษณะแตกต่างกันไป แต่สิ่งเหล่านี้อยู่ในแผนและอยู่ในใจที่อยากจะสนับสนุนให้สินค้าพื้นเมืองดีขึ้น

>> จับ "น้องหญิง" เจ้าสำนักคลื่นพลังบุญ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

14.20 น. ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นำกำลังตำรวจเข้าจับกุม น.ส.โสรวีร์ หรือน้องหญิง หรืออาจารย์หญิง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ 1220/2566 กระทำผิดฐาน "ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า"

โดยจับกุมได้ที่แดนธรรมสุขขาววะดี บ้านโนนตาแสง หมู่ 6 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ขณะที่ น้องหญิง (ผู้ต้องหา) พร้อมทีมงาน และลูกศิษย์ กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และกำลังจะสาธิตวิธีรักษาผู้ป่วย ตำรวจได้แสดงและอ่านหมายจับ ก่อนควบคุมตัวไป สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพื่อบันทึกจับกุม ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> บุกรวบตัวผู้ลักลอบเล่นการพนัน จำนวน 11 ราย พร้อมของกลางมูลค่ารวมหลายแสนบาท

15.25 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง นำชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนัน ในพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ทั้งหมด 11 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์การเล่นการพนันมากมาย อาทิ โต๊ะ เก้าอี้ ไพ่ หรือ ชิบแลกเงินสด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ได้นำตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากจังหวัดชลบุรี ได้รับเบาะแสจากสายลับว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน จึงสั่งการให้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลปรากฏว่าพบผู้ลักลอบเล่นการพนันจริง จำนวน 11 ราย แบ่งเป็นนักพนันชาวต่างประเทศ 9 ราย คนแจก 1 ราย และคนรับเป็นเจ้าของ 1 ทั้งนี้ พบของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย อุปกรณ์เล่นการพนัน อาทิ โต๊ะ เก้าอี้ ไพ่ จำนวน 61 สำรับ ชิบแลกเงินจำนวนมาก และเงินสด 167,500 บาท ซึ่งหลังจากตรวจสอบและยึดของกลางทั้งหมดก่อนคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>>รวบสามีชาวปากีสถาน ร่วมสาวไทย ฆ่าโหดหนุ่มอินเดียแล้วโยนศพทิ้งริมถนน จ.พังงา คาดปมหักหลังธุรกิจ

17.20 น. กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายยาเซอร์ สัญชาติปากีสถาน อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธไปในทาง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนางดาว สัญชาติไทย อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธไปในทาง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง อาวุธปืนยี่ห้อ CZ จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด , รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว จำนวน 1 คัน รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ

เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งพบศพชายชาวต่างชาติถูกทำร้ายเสียชีวิต บริเวณริมถนน หมู่ 3 บ้านนา ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตรวจสอบ บริเวณที่เกิดเหตุ พบศพนายเพาลูส ชายชาวอินเดีย (ทราบชื่อภายหลัง) ลักษณะท้ายทอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนทะลุแก้มข้างซ้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวบพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคนดังกล่าว ก่อนแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบ และนำตัวส่ง สภ.โคกกลอย จ.พังงา เพื่อดำเนินคดีต่อไป

>> รวบด.ต.หญิง สังกัด ภูธรภาค 9 ขณะขับเก๋งกลับจากกทม. โดนซัดทอดโยงคดี อุ้มเรียกค่าไถ่หนุ่มอินโดนีเซีย 2.3 ล้าน เจ้าตัวปัดไม่รู้เรื่อง

18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง นำหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง เข้าจับกุมตัว ด.ต.หญิง สังกัด ตำรวจภูธรภาค 9 ขณะขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส กลับจากกรุงเทพฯมาถึงจ.สุราษฎร์ธานี นำตัวมาสอบสวนก่อนนำตัวส่งศาลฝากขังทันที พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังตกเป็นผู้ต้องหาถูกศาลออกมาจับคดี อุ้มเรียกค่าไถ่หนุ่มอินโดนีเซีย

จากนั้นตำรวจชุดสืบสวน พร้อมพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นเก็บพยานหลักฐานและดีเอ็นเอภายในรถเก๋งเพื่อหาความเชื่อมโยง ก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลังในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง และ ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยหลังแรกในพื้นที่ ต.ท่าแค ไม่พบเจ้าของบ้าน หลังที่ 2 ที่ ต.เขาชัยสน เป็นบ้านของด.ต.หญิง พบลูกชายอยู่บ้านเพียงลำพัง

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 14 พ.ค.2567 รองกงสุล สถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจ.สงขลา มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า สถานกงสุลฯอินโดนีเซีย จ.สงขลา ได้รับการประสานงานจาสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ว่ามีชายสัญชาติ อินโดนีเซีย อายุ 29 ปี ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มไปจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปอ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง ถูกซ้อมทรมานอัดวิดีโอ ส่งไปยังน้องสาวที่ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงินไทย 2.3 ล้าน โดยญาติโอนเงินมาแล้วบางส่วนเป็นเงิน 8 แสนบาท

จนกระทั่งจับกุมนายปาน ได้เป็นคนแรก ซึ่งนายปาน ได้ให้การชัดทอด ว่ามีด.ต.หญิง เป็นคนขับรถนำชาวอินโดฯมาส่งที่บ้าน ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจึงขอศาลออกหมายจับและจับกุมตัวด.ต.หญิงไว้ได้ โดยเจ้าตัวปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ยอมให้การใดๆ 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม