วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 15:31 น.
วันนี้ (16 ก.พ.2566) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับ บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ 7 ราย ได้แก่ บมจ.ดีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก เบบี้เลิฟ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เซอร์เทนตี้ บจ.ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก มามี่โพโค ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไลฟรี่ บจ.โมเดิร์น ซอฟท์ โปรดักส์ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไอแคร์บจ.คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กเมอร์รี่ส์ บจ.ทรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กแพมเพิร์ส บจ.คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย ผ้าอ้อมเด็กฮักกี้ส์ บจ.ฟูเบิร์ด อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กทีโน่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่อันอัน, อันแคร์ ,ฟิลฟรี ที่มีข่าวเตรียมปรับขึ้นราคาขายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
ภายหลังหารือ กรมการค้าภายใน ได้รับคำยืนยันจากผู้ผลิตผ้าอ้อมทั้ง 7 รายว่า ยังจะไม่ขึ้นราคาโดยขอตรึงราคาไว้ให้นานที่สุด ถึงแม้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นจาก ค่าไฟฟ้า ค่าแรง ค่าขนส่งและอื่น ๆ แต่ต้นทุนโดยรวมการผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูปยังต่ำกว่าเมื่อปี 2564 เนื่องจากก่อนหน้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบถูกลง ดังนั้น เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชน ผู้ผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูปจึงจะตรึงราคาไว้ก่อน โดยจะมีการติดตามต้นทุนการผลิตอย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มลดลงตามต้นทุนการผลิตที่ลดลง เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ทำให้ขณะนี้ราคาสินค้าในตลาดหลายรายการปรับลดลงแล้ว เช่น น้ำมันบรรจุขวดราคาลดลงมามาก ดังนั้นกรมการค้าภายในจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นไว้ก่อน พร้อมขอให้นำสินค้ามาจัดโปรโมชัน และนำมาขายผ่านรถโมบายธงฟ้า และงานพาณิชย์ลดราคาทั่วไทยอีกด้วย
และในส่วนของห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกและห้างท้องถิ่นนั้น ได้มีการหารือร่วมกัน ให้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเพื่อช่วยค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการเข้าร่วมโครงการของกระทรวงพาณิชย์ส่งผลทำให้ภาพรวมยอดขายในส่วนของผู้ประกอบการค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15 ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันและสำหรับต้นทุนการผลิตสินค้าที่ลดลงจากสถานการณ์ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงนั้น
กรมการค้าภายในมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าปรับราคาลงตามต้นทุนที่ลดลงด้วย แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถปรับลดลงได้ในทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการต้องตรึงราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทางกรมจึงต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย แต่แนวโน้มในอนาคตมีโอกาสที่สินค้าหลายรายการจะปรับตัวลดลงได้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ