เมื่อเวลา 10.23 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ได้เกิดเหตุอาคารพาณิชย์ ที่กำลังรื้อถอนถล่มลงมาบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ในช่วงกำลังรื้อถอน จุดเกิดถนนจรัญสนิทวงศ์ ขาออก บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 93 ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ในช่วงเกิดเหตุ ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก เนื่องจาก จนท.ต้องปิดจราจร 1 เลนซ้าย และเก็บกวาดวัสดุ และทำความสะอาด

ขณะที่ นางสาวอารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด ให้ข้อมูลว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการรื้อถอนอาคารตึก 4 ชั้น ทั้งหมด 21 ห้อง ตอนนี้รื้อถอนไปแล้ว 14 ห้อง เหลืออีก 7 ห้อง

เมื่อเช้าที่เกิดเหตุมีการรื้อถอนอาคารตามปกติ แต่มีเศษอิฐและวัสดุในการรื้อถอน ตกลงบนพื้นผิวการจราจร เลยออกมาจากแนวที่กั้นรื้อถอนในการก่อสร้าง ทำให้เศษวัสดุตกลงมาบนผิวการจราจรจรัญสนิทวงศ์ และเศษวัสดุอีกบางส่วนตกลงบริเวณของอาคารข้างเคียง

คลิปที่ออกไปมีฝุ่นที่ฟุ้งกระจายไปรอบบริเวณของถนน แต่หลังเกิดเหตุการจราจรบนท้องถนนไม่มีการปิดกั้น ยังสามารถปล่อยให้รถวิ่งบนถนนได้ปกติ

การรื้อถอนตึกดังกล่าว เพื่อทำพื้นที่ให้เป็นที่ว่าง ซึ่งแนวตึกดังกล่าวได้ถูกเวนคืนแล้วทั้งหมด เพื่อสร้างสะพานข้ามแยกเกียกกาย ส่วนตึกที่มีผู้อยู่อาศัยในบ้าน เป็นอาคารที่ไม่ได้ถูกรื้อถอน ซึ่งยังมีผู้พักอาศัยอยู่ แต่ตึกที่มีผู้อยู่อาศัย ไม่ได้เชื่อมต่อกับตึกที่ทำการรื้อถอน โดยตึกดังกล่าวมีช่องว่างของตึก ไม่ได้เชื่อมต่อกัน ดังนั้นผลกระทบจากตึกที่รื้อถอน ไม่มีผลต่อโครงสร้างของตึกที่ยังมีผู้พักอาศัย

ตึกแถบนี้ เมื่อถามผู้เช่าพบว่าอยู่มาแล้วกว่า 40 ปี ดังนั้นอายุของตึกน่าจะใช้งานมาแล้วพอสมควร แต่ยืนยันว่า ตึกที่รื้อถอนไม่ส่งผลกระทบต่อตึกที่ยังมีผู้อยู่อาศัย เพราะผนังของตึกไม่ได้เชื่อมต่อกัน

กรณีที่คนตั้งข้อสังเกตเรื่องการขออนุญาตรื้อถอนตึกกับเขต "ผู้อำนวยการเขตบางพลัด" ยืนยันว่า เป็นการขอที่ถูกต้อง ทางเขตมีมาตรการที่ให้ผู้รื้อถอนมีมาตรการที่จะไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือเศษวัสดุของอาคารหล่นลงมานอกเขตที่กำหนด แต่เบื้องต้นยังต้องหาสาเหตุว่า ทำไมเศษวัสดุของอาคารถึงหล่นลงมานอกแนวกั้น ตอนนี้ระงับการรื้อถอนไปก่อน 7 วัน เพื่อให้ซ่อมแซมแนวกั้นที่เสียหาย

"จากการได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ตึกถล่ม เพียงแต่เป็นเศษวัสดุจากการรื้อถอน เบื้องต้นได้รายงานไปยังท่านผู้ว่าฯ ถึงเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นทางเขตก็มีความกังวลกับเหตุที่เกิดขึ้น และเน้นย้ำกับผู้รื้อถอนให้ดำเนินการรัดกุมมากกว่านี้"