24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 เมษายน 2567
>> รถกระบะกำลังไปงานบวช เกิดเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 3 คน
07.30 น. กู้ภัยเพชรพนมวัง มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 44 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 125+200 ในพื้นที่ ม.11 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ตกถนนอยู่ในข้างทาง ในสภาพพังเสียหายทั้งคัน และใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย บางรายกระเด็นตกจากรถอยู่ตามพงหญ้า ทางอาสาสมัครจึงได้ให้การช่วยเหลือก่อนนำส่งโรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ จำนวน 8 ราย เป็นผู้ชาย 3 และผู้หญิง 5 ราย ส่วนในจุดเกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 คน ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 24 และ 27 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และต่อมาได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตที่ รพ.กาญจนดิษฐ์ อีก 1 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 11 ปี
เบื้องต้น ผู้โดยสารรถคันดังกล่าว เล่าว่า รถคันนี้เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต กำลังมุ่งหน้าไปงานบวช ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน จนทำให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์
>> เพลิงไหม้บ้านทาวน์เฮ้าส์ ซอยลาดพร้าว 94 เสียหายวอดทั้งห้อง
10.15 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 94 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 4 ภายในห้องเก็บของ เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 16 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเสียหายหมดทั้งห้อง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก
>> บุกรวบเจ้าของเพจกีฬาชื่อดัง แฝงโฆษณาพนันออนไลน์
13.01 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่ามกันจับกุม นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ตามหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 23 เมษายน 2567 กระทำความผิดในลักษณะช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12
สถานที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และ สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 บัญชี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมายที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยได้ตรวจพบเพจ Facebook ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลต่างประเทศที่กำลังเป็นกระแสในสังคม มีผู้รับชมจำนวนมาก แต่แฝงโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ เพื่อชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าไปเล่นการพนัน จึงได้ทำการสืบสวนจนรู้ตัวเจ้าของเพจดังกล่าว และได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาล เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว
ผลการตรวจค้นพบ นายสอ แสดงตนเป็น ผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว และได้ตรวจยึดของกลาง ในการกระทำความผิดจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย
>> พ่อ-แม่ทำงาน ปล่อยให้ลูกวัย 3 ขวบเล่นในไซต์งานก่อสร้าง แล้วถูกไฟดูดหมดสติ กู้ชีพ-กู้ภัยปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล
14.30 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบางพลี รับแจ้งมีเด็กถูกไฟฟ้าดูดหมดสติ เหตุเกิดภายในไซต์งานก่อสร้าง ซอยเทพารักษ์ 96 ในพื้นที่ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุเป็นไซต์งานซึ่งกำลังก่อสร้างคอมมูนิตี้มอล พบเด็กชายอายุประมาณ 3 ปี ชาวกัมพูชา นอนหงายหมดสติ โดยมีพ่อกับแม่ของเด็ก นั่งร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่ข้างๆ เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งจึงได้เร่งปฐมพยาบาลในเบื้องต้นโดยการปั้มหัวใจ และประเมินอาการพบว่าไม่มีการตอบสนอง จึงได้รีบประสาน เจ้าหน้าทีมพยาบาล จากโรงพยาบาลบางพลีเข้าสนับสนุน รีบนำตัวไปรักษาที่ รพ.บางพลี แต่ระหว่างทางเด็กได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบที่เกิดเหตุยังพบสายไฟ ซึ่งใช้สำหรับต่อใช้ในไซต์งานก่อสร้างขาดห้อยอยู่
สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บนั้นเป็นลูกของคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในไซต์ ช่วงเกิดเหตุ พ่อกับแม่ของน้อง อยู่ระหว่างทำงาน โดยปล่อยให้น้อง เดินเล่นอยู่เพียงบริเวณที่เกิดเหตุ อยู่เพียงลำพัง ด้วยความซุกซนของเด็ก จึงกระโดดไปเอื่อมจับสายไฟที่ห้อยอยู่ ก่อนที่จะดึงลงมาและลงมือแกะเทปพันสายไฟซึ่งช่างได้พันหุ้มทองแดงเอไว้ออก ก่อนที่ไฟฟ้าจะดูดบริเวณมือที่กำสายไฟอยู่ จนทำให้เด็กล้มหงายท้อง หมดสติด กระทั่งมีคนมาเห็นจึงรีบไปกดสวิสลง ก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
>> แถลงผล หน่วยปราบยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ ตรวจยึดเคตามีน 320 กิโลกรัม ซุกซ่อนในฐานหุ่นยนต์เหล็ก
14.56 น. พลตำรวจโท ภาณุวัตน์ หลักบุญ (เสขาธิการป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายปญณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พ.ต.อ.วรัตม์ เจตนานนท์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติต 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรรม ศุลกากร แถลงผลการ ตรวจยึดเคตามีน 320 กิโลกรัม ซุกซ่อนในฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก เตรียมจัดส่งไปปลายทางไต้หวัน ผ่านการขนส่งทางเรือ และขยายผลจับกุมผู้ส่งชาวไทย 1 คน เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่ กทม.
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การตรวจยึดเคตามีน 320 กิโลกรัม ดังกล่าว สืบเนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการ SITF และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วม ไทย-ออสเตรเลีย ว่าด้วยความร่วมมือด้านยาเสพติดการฟอกเงิน และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ทางการออสเตรเลียตรวจยึดไอซ์ 108 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องแปรรูปอาหาร ส่งมาจากประเทศไทย ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า ผู้ดำเนินการจัดส่งสินค้าดังกล่าวเป็นหญิงชาวไทย จึงดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา
จนกระทั่งวันที่ 24 เมษายน 2567 ทราบว่าหญิงไทยคนดังกล่าว ได้ดำเนินการจัดส่งสินค้าประเภทหุ่นยนต์เหล็ก ไปยังปลายทางประเทศไต้หวัน จึงเป็นเหตุต้องสงสัยว่าจะมีการชุกซ่อนยาเสพติดไปกับสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จึงบูรณาการความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน ดำเนินการตรวจสอบสินค้าดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบ เคตามีน 320 กิโลกรัม ซุกซ่อนในฐานรองหุ่นยนต์เหล็ก (ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าครั้งนี้ 180,000 บาท) เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว และดำเนินการขยายผลสืบสวนติดตามจับกุมผู้ส่งสินค้าที่ซุกซ่อนยาเสพติดได้ โดยผู้ต้องหาให้การว่าได้รับคำสั่งจากหญิงชาวลาวให้ดำเนินการจัดส่งสินค้า
>> ไฟไหม้เรือยอร์ซ อ่าวนาจอมเทียน จนท.ฉีดน้ำสกัด ช่วยลูกเรือได้ปลอดภัย
15.06 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ระดมกำลัง ไประงับเหตุ เพลิงไหม้เรือยอร์ช ที่อ่าวนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจนเห็นได้ในระยะไกล และมีลูกเรือจำนวนสามคนติดอยู่บนเรือ เจ้าหน้าที่ใช้เรือกู้ชีพเร่งฉีดน้ำเข้าสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ทั้งลำเรือ พร้อมช่วย ลูกเรือออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
สอบถามกัปตันเรือดังกล่าว เปิดเผยว่าตนเองพร้อมช่างหลังจากซ่อมเรือเสร็จได้นำเรือออกมาทดสอบระบบ กระทั่งขับมาบริเวณกลางทะเล สังเกตุเห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้จากท่อไอเสียจากเครื่องยนต์ ทุกคนพยายามดับแล้วแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้จึงลุกลามไปทั่วลำเรือ จึงรีบแจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
>> หยุดรั่วแล้ว แอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่วฟุ้งกระจาย ปชช.ได้รับผลกระทบประมาณ 20 หลังคาเรือน
15.52 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้ากรณีถังบรรจุสารแอมโมเนีย ที่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 10 บ้านทรัพย์เจริญ ต.ศรีสำราญ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ระเบิดจนทำให้ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลออกมา เมื่อเช้าวันนี้ เวลา 06.00 น.โดยก๊าซแอมโมเนียฟุ้งกระจายออกมาในพื้นที่รัศมี 200-300 เมตร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ใกล้กับโรงน้ำแข็งและอยู่รอบๆ พื้นที่รัศมี 300 เมตรให้รีบอพยพออกมาก่อน และแนะนำให้ผู้ได้รับสารแอมโมเนีย ให้รีบอาบน้ำแล้วไปพบแพทย์ทันที
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน สารแอมโมเนียในถังหยุดรั่วแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบชาวบ้านคนไหนที่ได้รับอันตรายรุนแรง มีเพียงแสบตาและจมูกเท่านั้น โดยชาวบ้านที่อยู่แถวโรงน้ำแข็งรายหนึ่ง บอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 05.40 น.เสียงระเบิดดังแรงมาก จากนั้นก็เริ่มแสบตาแสบจมูก บ้านตัวเองอยู่ 2 คนก็ตกใจเพราะแสบตาและจมูก จึงวิ่งไปบอกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรีบหนีออกมาจากบ้านเพราะแสบตาแสบจมูกมาก ครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วแต่ไม่รุนแรงขนาดนี้
ทางด้านนายศักดิ์ชัย อุทัยคู ปลัดป้องกัน อ.น้ำโสม เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันนี้เกิดเหตุถังบรรจุสารแอมโมเนียสำหรับผลิตน้ำแข็งระเบิด และฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ มีบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบประมาณ 20 หลังคาเรือน และจากการสอบถามเจ้าของโรงน้ำแข็งเบื้องต้นทราบว่า สาเหตุที่รั่วเพราะมีน้ำแข็งไปอุดตันท่อทำให้ท่อรั่ว และก๊าซแอมโมเนียรั่วออกมา ตอนนี้ทางเจ้าของโรงน้ำแข็งแจ้งว่าได้ดำเนินการแก้ไขหยุดรั่วแล้ว ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลต.นางัว ได้เดินทางมาพบกับเจ้าของโรงน้ำแข็ง เพื่อตรวจสอบว่าสาเหตุ
>> รองโฆษกฯ เผยสถานการณ์น้ำภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ระบุ ไทยสิ้นสุดฤดูแล้ง 30 เม.ย นี้
16.07 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากรายงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ภาพรวมสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ พบว่าปริมาณน้ำรวมมีจำนวน 55% ของความจุเก็บกัก (45,940 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ จำนวน 36% (20,764 ล้าน ลบ.ม.) ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำ เฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ: สิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จุฬาภรณ์ ภาคตะวันออก: คลองสียัด และภาคกลาง : กระเสียว (ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูแล้ง)
นายคารม กล่าวต่อไปว่า สำหรับคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน ณ สถานีประตูระบายน้ำปากคลองจินดา อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม่น้ำแม่กลอง ณ สถานีอัมพวา อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แม่น้ำบางปะกง ณ สถานีวัดบางคาง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ สนทช. ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ตั้งแต่วันนี้ - 30 เม.ย. 67
แนวทางการบริหารจัดการน้ำ สทนช. เปิดเผยผลว่า ขณะนี้ใกล้จะสิ้นสุดช่วงฤดูแล้งแล้ว ในสิ้นเดือน เม.ย. 67 โดยปัจจุบันมีปริมาณน้ำในแหล่งน้ำทั่วประเทศ 45,099 ล้านลูกบาศก์เมตร (55% ของความจุ) ซึ่งนับว่าปริมาณน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีฝนตกน้อยกว่าค่าปกติจากอิทธิพลของสภาวะเอลนีโญ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนบริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูแล้งถัดไปแล้ว
>> จับโจรไต่กำแพงตระเวนลักทรัพย์หมู่บ้านหรูนับ 10 หลัง หลังลอยนวลนานเกือบ 2 เดือน
17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี สามารถติดตามจับกุมคนร้ายตระเวนย่องเบาเข้าบ้านไปลักทรัพยสินมีค่าต่าง ๆ ภายในหมู่บ้านหลายแห่ง ทราบชื่อคือ นายกร (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งย่านบางใหญ่ จึงได้ควบคุมและนำตัวมาสอบสวนขยายผลต่อที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายกร ให้การว่า เป็นคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์สินตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จากนั้นจะนำทรัพย์สินที่ได้มา ไปขายต่อแถวย่านรามอินทรา จากนั้นเมื่อได้เงินมา ก็จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตนยอมรับว่ามีเสพยาเสพติดบ้าง แต่ไม่ได้ติดยาเพราะไม่ได้เสพทุกวัน ที่ผ่านมาตนเคยติดคุกในคดีลักทรัพย์และทำร้ายร่างกายมาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมคนร้ายเกือบ 2 เดือน เนื่องจากคน ร้ายไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตระเวนก่อเหตุตามหมู่บ้าจัดสรรไปเรื่อย ทำให้ยากต่อการจับกุม จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนพัฒนาใหม่ เสียหายวอดกว่า 15 หลังคาเรือน
19.17 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนสถานที่เกิดเหตุ ภายในชุมชนพัฒนาใหม่ ถนนสุนทรโกษา แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้, บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้, บ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกติดกันเป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ภายในบ้าน เพลิงลุกไหม้ 15 หลังคาเรือน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 244 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยคลองเตย
>> ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชนที่บ้านอากาศ เสียหายวอด 7 หลังคาเรือน
19.30 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร รายงานเหตุอัคคีภัย โดยได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเรือนของประชาชน ในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 2 บ้านอากาศ ตำบลอากาศ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดกัน ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เพลิงลุกไหม้และได้ลุกลาม สร้างความเสียหายทั้งหมด จำนวน 7 หลังคาเรือน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่และใกล้เคียงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.
เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับความเสียหาย และสาเหตุของเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อากาศอำนวย
ทั้งนี้ จังหวัดสกลนคร อำเภออากาศอำนวย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น และจะได้ทำการสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
>> รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ 2 คันชนกัน มีผู้เสียชีวิต 2 คน
20.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต บนถนนพระราม 2 ช่วงหลัก กม.ที่ 41 ในพื้นที่ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ป้ายทะเบียน นครปฐม, รถจักรยานยนต์ ซูซุกิ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร และ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ป้ายทะเบียน สมุทรสาคร ลักษณะชนกันรถพังเสียหาย และใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.บ้านแพ้ว และมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย 1 และหญิง 1 คน ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด
23 กรกฎาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ เสียชีวิตกลางถนนหมายเลข 24 จ.สุรินทร์
23 กรกฎาคม 2568
23 กรกฎาคม 2568
รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ เสียชีวิตกลางถนนหมายเลข 24 จ.สุรินทร์
23 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ