กรณีมีการเผยแพร่คลิปร้านขายไก่ทอดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการนำไก่ที่หมักด้วยเครื่องเทศแล้วนำไก่ดังกล่าวไปใส่ในถุงกระดาษ แล้วใช้แม็กเย็บปากถุง หลังจากนั้นก็นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ กระทั่งไก่สุกแล้วจึงนำไก่ออกจากถุงมาขายให้ลูกค้า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ฆนัท ครุธกูล อายุรแพทย์โรคหัวใจ นายกสมาคมโภชนาการเพื่อกีฬาและสุขภาพ เปิดเผยกับมติชนออนไลน์ว่า

เรื่องของสูตรอาหารและความสะอาดไม่ติดใจและน่ากังวลเพราะความร้อนฆ่าเชื้อโรคอยู่แล้ว แต่จะติดอยู่ที่ว่ากระดาษที่นำมาห่อเป็นถุงนั้นเป็นกระดาษอะไร หากเป็นเยื่อกระดาษที่ไม่ใช้สารฟอกสี เหมือนในสมัยโบราณ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะในสมัยก่อนต่างประเทศ เช่น ประเทศอียิปต์ ก็มีการใช้กระดาษสำหรับห่ออาหารพวกเนื้อสัตว์เพื่อถนอมให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม กระดาษไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทอดเพื่อการประกอบอาหาร

“ปัญหาคือ หากกระดาษที่ใช้ห่อไก่นั้นเป็นกระดาษที่ผ่านการฟอกสี ใช้สารเคมีฟอกกระดาษ แล้วเอาไปใช้กับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปห่อ หรือเอาไปทอด สารเคมีย่อมเข้าไปปนเปื้อนกับเนื้อไก่ รับประทานเข้าไปมีอันตรายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องกระดาษที่ทางร้านนำมาใช้ว่าเป็นกระดาษชนิดไหน อย่างไร” นพ.ฆนัทกล่าว

ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ว่า

ถ้าถามส่วนตัวว่าสนิทใจที่จะกินแบบนี้หรือไม่ ตอบเลยว่า ไม่สนิทใจแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องของอาหารทอดนั้น สำคัญคือน้ำมันที่ใช้ทอด หากเป็นน้ำมันเก่านำมาทอด น้ำมันเก่ามีสารก่อมะเร็งแน่นอน

สำหรับกระดาษที่นำมาใช้ห่อไก่ทอดนั้น กระดาษสำหรับห่อไก่ทอดโดยเฉพาะ ไม่มีแน่ๆ  โดยกระดาษที่นิยมเอามาใช้กับอาหารนั้นมี 3 ประเภท คือ 1.กระดาษสีขาวขุ่นๆ หรือสีน้ำตาล ใช้ห่ออาหารที่ไม่มีความมันมากนัก 2.กระดาษไข ที่มีการเคลือบสารเคมีบางอย่าง เอาไว้ใช้รองอาหาร เช่นพวกขนมเค้ก เป็นต้น และ 3.กระดาษที่มีเนื้อแน่นเป็นพิเศษ

หากจะเอาไปใช้กับอาหารโดยเฉพาะนั้นจะถูกระบุว่าเป็นฟู้ดเกรด ซึ่งเป็นกระดาษใหม่ บริสุทธิ์ ไม่ใช่กระดาษรีไซเคิล และมีการรับประกันว่าไม่มีการใช้สารเคมี ผู้บริโภคมั่นใจว่าปลอดภัย

“แม้ว่ากระดาษพวกนี้จะถูกออกแบบมาให้ทนกับความร้อนของอาหาร แต่กรณีที่ต้องเอาไปทอดในน้ำมันเดือดๆ เป็นเวลานานๆ นั้น ก็ไม่น่าจะปลอดภัยเท่าใดนัก

อย่างไรก็ตาม หากจะรับประทานไก่ทอดสูตรนี้ ผมว่าสามารถรับประทานได้ แต่อย่าบ่อยนัก ทั้งนี้ ขอให้ทางร้านผู้ทำใช้กระดาษที่เป็นกระดาษฟู้ดเกรดด้วยก็จะดี สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกด้วย” รศ.ดร.เจษฎากล่าว