24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 เมษายน 2567

>> รถอเนกประสงค์ชนกับรถจักรยานยนต์แล้วทับซ้ำ มีผู้เสียชีวิต

07.05 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.พระนครศรีอยุธยา มีอุบัติเหตุ รถอเนกประสงค์ ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทางสุพรรณบุรี - ป่าโมก ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.นาคู อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ อยู่กลางถนนสภาพหน้ารถพังเสียหาย ที่ใต้ท้องรถพบ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง ป้ายทะเบีบยน พระนครศรีอยุธยา ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 48 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดชะโด

>> ฝากขังชายชาวอินเดียโหด จ้วงแทงสาวไทยดับ 31 แผล เจ้าตัวปัดตอบคำถามสื่อ

10.47 น. พนักงานสอบสวน สน.ตลาดพลู ควบคุมตัว นายยาเดฟ อายุ 31 ปี สัญชาติอินเดีย ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขังผลัดแรก หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง 31 แผล จนหญิงไทย วัย 51 ปี เสียชีวิตคาโรงแรมหรู ย่านตลาดพลู เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา

โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ซึ่งท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้มีการคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง ซึ่งขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ซึ่งจากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่าสีหน้าของผู้ต้องหาดูกังวลอยากเห็นได้ชัด

สำหรับ นายยาเดฟ เคยถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ มาเช่ารถจักรยานยนต์ ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี แล้วขี่มาพักอยู่กับผู้ตาย ซึ่งผู้ตายจะบอกกับลูกว่าออกไปเยี่ยมยายที่ป่วยติดเตียงที่บ้านพักย่านจอมทอง แล้วก็มาพักอยู่กับคนร้าย หลังเกิดเหตุนายยาเดฟได้นั่งรถตู้ไปลงปลายทาง ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ก่อน

>> รพ.ตำรวจรับตัว "ด.ต.ปิยนันท์" พบเลือดออกในสมองด้านซ้ายเพิ่ม ต้องผ่าตัดด่วนรอบ 2

11.30 น. พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีของ ด.ต. ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.ตำรวจทางหลวงลพบุรี (ประจำจุดอยู่หมวดทางหลวงดีลัง) ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรจุดเปิดเลนพิเศษบริเวณทางแยกบ้านดีลังถนนสาย 21 ขาล่อง (สระบุรี-หล่มสัก) ตามที่ปรากฏผ่านสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดขณะนี้ ด.ต. ปิยนันท์ฯ ถูกส่งตัวมารักษาตัวอยู่ที่ อาคารเฉพาะกิจ ชั้น 3 หอผู้ป่วยวิกฤต ของโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อมาถึงโรงพยาบาลตำรวจได้ทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ซ้ำอย่างละเอียดทั้งหมด พบว่า ด.ต. ปิยนันท์ มีเลือดออกในสมองด้านซ้าย กะโหลกใบหน้าแตก กระดูกเบ้าตาแตก กระดูกซี่โครงด้านซ้ายซี่ที่สามหัก กระดูกหน้าแข้งขาด้านขวาหัก และต้องเข้าผ่าตัดด่วนเนื่องจากมีเลือดออกในสมองด้านซ้ายเพิ่ม และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกระบบมาร่วมดูแล อาทิเช่น ศัลยแพทย์ระบบประสาท ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ศัลยแพทย์พลาสติก จักษุแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ในส่วนของญาติ ด.ต. ปิยนันท์ฯ ทางโรงพยาบาลตำรวจ ได้จัดห้องพักสำรองเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ญาติผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว

>> "เสี่ยเจษ" เปิดใจปมพบกากแคดเมียมรวมกว่า 6,378 ตัน ยืนยันไม่มีนักการเมืองหนุนหลัง

12.00 น. นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เปิดใจหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 กรณี พบกากแคดเมียมเพิ่มกว่า 3,378 ตันที่บริษัท เจ แอนด์ บีฯ จ.สมุทรสาคร รวมพบกากแคดเมียมกว่า 6,378 ตัน โดยระบุว่า

ตนมีการทำสัญญาเพื่อซื้อแร่สังกะสี แต่ว่ามีกากแร่แคดเมียมปะปนเข้ามา ส่วนที่ซื้อมานั้น เพราะโรงงานต้นทางที่ถลุงแร่ในครั้งนั้นมีการฝังกลบและโรยปูนขาวและปูนพอตแลนต์ลงไปทำให้ปริมาณความเข้มข้นของกากแร่แคดเมียมนั้นลดลง จึงสามารถซื้อขายได้ และกากแร่ที่ตนครอบครองมีทั้งหมด 13,800 ตัน และมีกากแร่แคดเมียมผสมอยู่เพียง 38% เท่านั้น จากการที่กรมวิทยาศาสตร์นำแร่ในโรงงานไปตรวจสอบ อีกทั้งแคดเมียมไม่ใช่แคดเมียมบริสุทธิ์ เป็นเพียงกากแร่แคดเมียมผสมเท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะเมื่อเทียบกับปริมาณที่จะส่งผลอันตรายต่อมนุษย์นั้นต้องสูงถึง 100-150% และตั้งแต่มีข่าวปรากฏทำให้เกิดความเข้าใจผิดถึงโทษและพิษภัยของกากแคดเมียมที่รุนแรงเกินความเป็นจริง ซึ่งประเด็นนั้นทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ส่วนที่คนในโรงงานและคนรอบโรงงานออกมาบอกว่าได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ นายเจษฎา บอกว่า เจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจสอบโรงงานรอบๆ ด้วย

ทั้งนี้ ตนประมูลกากแคดเมียมดังกล่าวมาในราคา 8 ล้านบาท เพราะตนเองต้องการแร่สังกะสีที่นำไปขายต่อ แต่ไม่ได้ต้องการกากแคดเมียมจึงต้องนำไปคัดแยก ตามสัญญาที่เซ็นกับบริษัทเบาด์และบียอนด์ ว่าซื้อมาเพื่อนำไปกำจัด โดยยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างนั้นถูกต้อง แต่พื้นที่ของตนเองไม่เพียงพอ จึงต้องไปเช่าที่โรงงานอื่นเก็บ ส่วน นายจาง ได้ให้นายหน้ามาติดต่อตนเองเพื่อขอซื้อต่อ ซึ่งตอนนั้นตนเองต้องขายไปเพราะต้องการนำเงินมาหมุนต่อ ซึ่งยอมรับว่าผิดสัญญาที่ได้มาว่านำมาเพื่อกำจัด แต่กลับนำไปขาย ส่วนนี้ก็ยอมรับว่า ตนผิดจริง

ขอยืนยันว่า ไม่มีนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง และตนเชื่อว่า ตนถูกกลั่นแกล้ง จากคนที่ประมูลไม่ได้ โดยเตรียมจะเรียกร้องค่าเสียหายและเตรียมที่จะดำเนินคดีกลับ ยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะดำเนินคดีกับใคร ตนเองรู้สึกถูกหลอกและโดนลอยแพ จากสัญญาที่ทำกับบริษัทต้นทาง ซึ่งตนต้องมาเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด

>> รถกระบะฟาดเสาไฟข้างทาง คนขับ-ผู้โดยสาร กระเด็นออกตัวรถ เสียชีวิต 5 และสาหัส 1 คน

12.30 น. สภ.หนองบ่อ จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 223 เส้นทางสกลนคร - นาแก ในพื้นที่ บ้านดอนโทน ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร อยู่ข้างทางในสภาพพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถกระจัดกระจาย ใกล้กันพบเสาไฟฟ้าริมทางหักโค่น 1 ต้น และพบว่ามีร่างคนกระเด็นออกนอกตัวรถ 6 ราย ตรวจสอบพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว 5 คน เป็นชาย 1 และหญิง 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติเป็นหญิง 1 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือ และนำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.นครพนม โดยทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมีภูมิลำเนาจังหวัดอำนาจเจริญ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> สรุป 7 วันสงกรานต์ เสียชีวิต 287 คน เชียงราย เสียชีวิตสูงสุด 17 คน

13.05 น. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 17 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 224 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 224 คน ผู้เสียชีวิต 28 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว, ตัดหน้ากระชั้นชิด และ ดื่มแล้วขับ

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ แพร่ (จังหวัดละ 11 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ แพร่ (12 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (3 ราย)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 7 วันของการรณรงค์ (11 – 17 เม.ย. 67) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,044 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,060 คน ผู้เสียชีวิต รวม 287 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ แพร่ (80 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (17 ราย)

>> รวบสาว 19 เครือข่ายหลอกทำกิจกรรม มีโบนัส ค่าคอมฯ สุดท้ายเสียเกือบแสน

15.19 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี จับกุม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี โดยจับกุมได้ที่หน้าสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2565 ผู้เสียหายได้ใช้งานเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วได้พบกับข้อความเชิญชวนทำงานออนไลน์ จึงหลงเชื่อ โดยมีเนื้อหางานคือกดรับออเดอร์แล้วกดสั่งจ่ายให้กับร้านค้า แล้วจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามราคาสินค้านั้นๆ และได้รับโบนัส คนร้ายได้บอกให้โอนเงินเรื่อยๆ และจะได้ถอนเงินพร้อมเงินค่าคอมมิชชั่น โดยผู้เสียหายโอนไปทั้งหมด 93,012 บาท แต่เมื่อมียอดเงินมากขึ้นแต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้กล่าวหาจึงเชื่อว่าถูกหลอก การกระทำของคนร้ายดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินกับเจ้าของบัญชี และบุคคลอื่นใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องจนกว่าจะถึงที่สุด

ต่อมา ฝ่ายสืบสวนทราบว่า น.ส.ปิ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีนี้ โดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น จึงทำการวางแผนเข้าจับกุม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณหน้าสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงข้อหาในความผิด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการ สอท.3 มาดำเนินคดีได้ในที่สุด

>> เด็กน้อยไปตกปลาในสระน้ำ เบ็ดเกี่ยวกระเป๋าผ้าได้ เปิดออกมาผงะ เจอศพทารก

15.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมาได้รับแจ้งเหตุมีคนพบศพเด็กทารกห่อถุงดำยัดกระเป๋าผ้าทิ้งน้ำ บริเวณหนองหัวลาว บ้านพักรถไฟนครราชสีมา ซ.12 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ในที่เกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาดขนาดใหญ่ อยู่บริเวณบ้านพักของเจ้าหน้าที่การรถไฟนครราชสีมา พบศพเด็กทารกแรกเกิด เพศชาย ร่างกายสมบูรณ์ ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ ยัดใส่ถุงผ้าสีขาว ศพยังมีสายสะดือพันรอบตัวทารก สภาพศพเริ่มเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2 วัน โดยแพทย์เวรได้นำศพทารกไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา 
โดยผู้ที่พบศพทารกเป็นคนแรก เป็นเด็กที่ไปตกปลาที่บริเวณสระน้ำดังกล่าว คือ น้องแสตมป์ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี และน้องนัท (นามสมมติ) อายุ 15 ปี จากการสอบถามเด็กทั้งสองคน เล่าว่า ทั้งสองคนได้มาตกปลาบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ ขณะที่วันนี้มาตกปลาในช่วงบ่ายเบ็ดได้ไปเกี่ยวกับกระเป๋าผ้าขึ้นมา พวกตนจึงได้นำกระเป๋าผ้าขึ้นมาเปิดดูพบว่ามีถุงดำยัดอยู่ข้างใน เมื่อแกะออกมาพบว่ามีซากร่างของเด็กทารก จึงรีบแจ้งผู้ปกครอง จากนั้นผู้ปกครองจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตามหาตัวคนใจร้ายที่นำร่างเด็กทารกมาทิ้ง

>> บขส. สรุปข้อมูลการเดินทางของประชาชน เทศกาลสงกรานต์ รวมกว่า 1 ล้านคน

16.06 น. นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยข้อมูลการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 9 – 17 เมษายน 2567 รวม 9 วัน มีประชาชนเดินทาง (เที่ยวไป-กลับ) จำนวน 1,057,513 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส.,รถร่วมฯ, รถตู้) จำนวน 64,991 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวไป จำนวน 513,596 คน เที่ยวกลับ จำนวน 543,917 คน โดยประชาชนเดินทางออกไปยังจังหวัดในภาคอีสานมากที่สุด รองลงเป็นภาคเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ

สำหรับข้อมูลการเดินรถเมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 67) มีประชาชนเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ (เที่ยวไป-กลับ) รวม 119,218 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 7,326 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวไป จำนวน 51,286 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 3,317 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 67,932 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 4,009 เที่ยว

>> ปลัด สธ. ลงพื้นที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข เหตุแอมโมเนียรั่วไหลในโรงงานน้ำแข็ง จ.ชลบุรี

17.08 น. นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขสุขภาพที่ 6 รับมอบหมายจาก นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากเหตุการณ์โรงงานผลิตน้ำแข็ง ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีมีก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลฟุ้งกระจายไปในรัศมี 1 กิโลเมตร ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมาก

นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 155 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว มีอาการไม่มาก เช่น มึนศีรษะ วิงเวียน ระคายเคือง แสบตา แพทย์ให้การรักษาแล้วให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาลมี 38 ราย ในจำนวนนี้ 9 รายเป็นกลุ่มสีแดง อาการรุนแรง ส่วนใหญ่เป็นอาการของระบบทางเดินหายใจ ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางละมุง 25 ราย (สีแดง 2 ราย) โรงพยาบาลจอมเทียน 3 ราย (สีแดง 2 ราย) โรงพยาบาลชลบุรี 3 ราย (สีแดงทั้ง 3 ราย) และโรงพยาบาลเอกชนอีก 7 ราย (สีแดง 2 ราย)ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ศิริชัย ลิ้มสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) ติดตามสถานการณ์เพื่อให้การดูแลสุขภาพประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

>> "บิ๊กต่าย" ยืนยันเซ็นให้ "บิ๊กโจ๊ก" และลูกน้องรวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน

19.10 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมกับ นายตำรวจอีก 4 นาย รวมเป็น 5 นาย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยมี พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผบ.ตร.เป็นประธานสอบฯ

โดยยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน และตนเองมีอำนาจเต็ม เนื่องจากมีการรายงานพฤติการณ์แห่งคดี และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ได้รายงานเรื่องที่ตัวเองต้องคดีไปตามกระบวนการแล้ว จากนั้นมีการรายงานผล ส่งต่อให้กองวินัยพิจารณา ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจอีก4นาย กระทำผิดวินัยร้ายแรง และตนเองได้มีการรายงานให้ นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว เพราะ นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปปฎิบัติหน้าที่ที่ สำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ ต้องมีการส่งตัวกลับมาตามระเบียบ โดยการสั่งออกจากราชการไว้ก่อน มีผลทันที 18 เมษายน สวนการสอบวินัย จะเดินหน้าต่อตามกระบวนการซึ่งมีกรอบเวลา 270 วัน จึงต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพราะกระบวนการสอบวินัยใช้เวลานาน โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนได้หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

>> รถกระบะหลุดโค้งแล้วชนเสาเกาะกลาง คนขับ-คนนั่งกระเด็นออกมานอกตัวรถ มีทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต

20.30 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิจิบเต็กเซี่ยงตึ๊ง มีอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนทางหลวงหมายเลข 223 เส้นทางสายสุรินทร์ - ลำชี บริเวณทางโค้ง ใกล้เคียงจุดกลับรถ หน้าสวนปาล์มรีสอร์ท ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ป้ายทะเบียน 2981 สุรินทร์ อยู่กลางถนนในสภาพรถพังเสียหายยับ ใกล้กันที่นอกตัวยานพาหนะ พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เป็นชาย อายุ 18 ปี อาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.สุรินทร์ และพบมีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 19 ปี

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า รถกระบะคันดังกล่าว ขับออกมาจากตัวเมืองสุรินทร์ จะมุ่งหน้าไปทางตำบลตระแสง แล้วเกิดเสียหลักหลุดโค้งและฟาดดับเสาไฟ ความรุนแรงทำให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตร่างกระเด็นออกมานอกตัวรถ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศจีน

21.29 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.0 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของมณฑลยูนนาน, ประเทศจีน ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 478 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย  

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

00.02 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.6 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 34 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 

>> พบร่างชายนิรนาม เสียชีวิตปริศนาคาแทงค์น้ำบนอาคารพาณิชย์ย่านมีนบุรี

01.15 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบเหตุพบผู้เสียชีวิต ภายในแทงค์น้ำตั้งอยู่ชั้นดาดฟ้า บนอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนร่มเกล้า ในพื้นที่ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ บนชั้นดาดฟ้าของอาคารดังกล่าว ที่แทงค์เก็บน้ำพบว่าฝาพลาสติกที่ปิดแทงค์มีรอยแตก ตรวจสอบในแทงค์พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นเพศชายอยู่ในสภาพเปลือย 
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนให้ทางอาสาสมัครดำเนินการนำร่างขึ้นมาจากแทงค์ แล้วนำส่งแพทย์เพื่อชันสูตรหาสาเหตุต่อไป