หน้าแรก > สังคม

เมืองนนท์วิกฤตอากาศร้อน เจ้าของสวนทุเรียนนนท์กุมขมับ ผลผลิตเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ พระพยอม เผยสวนทุเรียนที่วัด ก็ออกแค่ 20 ลูก

วันที่ 4 เมษายน 2024 เวลา 03:04 น.


เมืองนนท์วิกฤตอากาศร้อน เจ้าของสวนทุเรียนนนท์กุมขมับ ผลผลิตเหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ พระพยอม เผยสวนทุเรียนที่วัด ก็ออกแค่ 20 ลูก

จากสถานการณ์ที่อุณหภูมิความร้อนปกคลุมไปทั้งประเทศ ส่งผลให้ทุเรียนนนท์ ผลไม้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ไทย ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน จากสภาพอากาศที่ร้อนไวและร้อนนาน ส่งผลทำให้เกสรของต้นทุเรียนนนท์ติดลูกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบจากผลผลิตของปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้ราคาพุ่งสูงอีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน เนื่องจากยอดคนจองกับผลผลิตที่ออกมาไม่พอขาย

วันที่ 3 มี.ค.67 เกี่ยวกับเรื่องนี้นายสำเริง สุนทรแสง เจ้าของสวนทุเรียนยายละมัย ประธานชมรมอนุรักษ์และฟื้นฟูทุเรียนนนท์ อำเภอเมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ตนเองทำอาชีพชาวสวนทุเรียนนนท์มา 20 ปี ในปีนี้ถือว่า เป็นปีที่วิกฤติของทุเรียนนนท์ก็ว่าได้ จากสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนไวขึ้น ทำให้ชาวสวนทุเรียนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นทุเรียนไม่ติดดอกหรือติดดอกแล้วแต่หลุดร่วงง่าย แม้ว่าชาวสวนทุเรียนจะมีการดูแลบำรุงเหมือนปกติก็ตาม แต่ปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งส่งผลกระทบมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา อากาศหนาวมาน้อยเพียงวันสองวันเท่านั้นก็หมดหนาวแล้ว และก็เข้าสู่หน้าร้อนในทันทีเป็นหน้าร้อนที่มาไว  ทำให้ต้นทุเรียนนนท์ติดผลน้อยมาก ซึ่งสถานการณ์แบบนี้จะทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้พุ่งสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวโดยเฉพาะทุเรียนนนท์พันธุ์ก้านยาวกับหมอนทอง เนื่องจากผลผลิตแต่ละสวนที่ตนได้สำรวจมาออกผลเพียงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผลผลิตของปีที่ผ่านมา  อย่างสวนตนผลผลิตทุเรียนนนท์เคยออกมาเมื่อปีที่แล้ว 1,500 ลูก มาปีนี้เหลือเพียง 150 ลูกเท่านั้น

นายสำเริง กล่าวอีกว่า สวนของตนในปีก่อนผลผลิตออกมาประมาณ 1,500 ลูก ได้พันธุ์ก้านยาวมาประมาณ 50 ลูก แต่มาในปีนี้พันธุ์ก้านยาวมีไม่ถึง 10 ลูก พันธุ์พวงมณีปีที่ผ่านมามีประมาณ 600-700 ลูก ปีนี้เหลือไม่ถึง 20 ลูก พันธุ์หมอนทองปีนี้ก็ได้ประมาณไม่ถึง 100 ลูก ถือเป็นปีที่ผลผลิตออกมาน้อยมาก ซึ่งถ้าปริมาณผลผลิตมีน้อยก็จะทำให้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้แพงสูงขึ้นไปตามความต้องการของตลาดอย่างแน่นอน ต้องถือว่าในปีนี้ใครได้กินทุเรียนนนท์ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะขนาดสวนตนมีคนจองไว้ตั้งแต่ต้นยังไม่ออกลูก แต่เมื่อผลผลิตออกมาน้อยมากแบบนี้ก็คงเฉลี่ยแบ่งขายกันไปได้คนละไม่กี่ลูกเท่านั้น

นายสำเริง เจ้าของสวนทุเรียนนท์ กล่าวอีกว่า โดยปกติแล้วทุเรียนนนท์จะชอบสภาพอากาศที่มีความชื้นกับร่มเงา และสลับแดดจัดๆในบางครั้ง แต่จากอุณหภูมิความร้อน ทำให้ต้นทุเรียนนนท์ไม่ออกดอกและไม่ติดลูกแบบที่เคยเป็น และจากสภาพอุณหภูมิแบบนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงผลไม้ของจังหวัดนนทบุรีชนิดต่าง ๆ อีกด้วย เช่น มะม่วงยายกล่ำ กะท้อนบางกร่าง  รวมทั้งมะปรางกับมังคุดอีกด้วย และจากวิกฤติที่เกิดขึ้นอาจจะผลกระทบไปถึงชาวสวนทุเรียนนนท์ที่ตั้งใจลงทุนทำสวนทุเรียนนนท์เพื่อหวังจะได้ผลผลิตออกมาขายให้คุ้มค่ากับที่ลงทุนทำสวนมาทั้งปี แต่เมื่อผลผลิตออกมาเพียงเล็กน้อยแบบนี้ อาจทำให้ชาวสวนทุเรียนนนท์บางรายเกิดความเหนื่อยล้าและท้อถอยที่จะทำสวนทุเรียนนนท์ต่อไป จนถึงขั้นขายสวนทุเรียนไปเป็นหมู่บ้านจัดสรร โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำสวนต่อไป ซึ่งชาวสวนทุเรียนนนท์ในตอนนี้ก็จะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และคาดหวังว่าหากผลผลิตในปีนี้ออกน้อยก็ถือว่าเป็นการพักต้นไป และในปีหน้าผลผลิตทุเรียนนนท์จะกลับมาออกผลผลิตได้เต็มที่เหมือนเดิม

ทางด้าน พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ก็กล่าวถึงสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนนนท์ของวัดสวนแก้วที่ปลูกไว้ เช่นกันว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผลผลิตทุเรียนนนท์ของวัดสวนแก้วเหลือเพียงประมาณ 10-15% เท่านั้น ส่วนอีก 80-90% ที่หายไปเพราะต้นทุเรียนไม่ติดผล เนื่องจากอากาศที่ร้อนเร็ว อากาศหนาวเพียงสั้นๆ ไม่กี่วันก็เปลี่ยนมาเป็นอากาศร้อน ซึ่งต้นทุเรียนต้องการอากาศหนาวที่นานกว่านี้ประมาณสักครึ่งเดือนเพื่อให้ต้นออกเกสร ตอนนี้ภายในสวนของทางวัดนับทุเรียนที่ติดลูกได้เพียงประมาณ 20 ลูกเท่านั้น จากปีก่อนที่ได้ผลผลิต 200-300 ร้อยลูกต่อฤดูกาล ซึ่งเป็นการหายไปเกินกว่าครึ่งของครึ่งมาก แล้วแบบนี้ราคาทุเรียนนนท์ในปีนี้ราคาจะพุ่งไปแตะหมื่นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะพันธุ์ก้านยาว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ได้รับผลกระทบเหมือนกันทุกสวนก็คือธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป  ดังนั้นคนที่จะกล้าทุเรียนนนท์มากินได้ในปีนี้ ต้องถือเป็นนักกินที่วาสนาปากสูง

พิรฎา
 

 

 

ข่าวยอดนิยม