29 มี.ค.2567  สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน  เมื่อวันพฤหัสบดี (28 มี.ค.)  มีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย บาดเจ็บ 3 ราย โดยยังมีผู้สูญหายอีก 3 ราย

จากอิทธิพลของพายุไซโคลน "กามาเน" (Gamane) ที่พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของประเทศมาดากัสการ์ ทำให้มีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักและน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัย และพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน พายุไซโคลนกามาเน พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือสุดของมาดากัสการ์เมื่อเช้าวันพุธ  ด้วยความเร็วลมเฉลี่ย 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วัดความเร็วลมได้ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ก่อนหน้านี้พายุได้เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน จากเดิมที่คาดว่าจะพัดผ่านบริเวณมหาสมุทรอินเดียไป แต่แล้วก็เปลี่ยนทิศทางพัดขึ้นฝั่งบริเวณเมืองโวเฮเมอร์ โดยที่ประชาชนไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือ

หน่วยกู้ภัยได้ขึ้นบินสำรวจความเสียหาย พบบ้านเรือนของประชาชนหลายร้อยหลังจมอยู่ใต้น้ำ และมีประชาชนจำนวนมากกำลังรอความช่วยเหลือ พบผู้เสียชีวิต 14 ราย ขณะที่ความเสียหายทั้งหมดยังไม่ชัดเจน เนื่องจากหมู่บ้านหลายแห่งในภูมิภาคถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ของประเทศ ทำให้ทีมกู้ภัยเข้าถึงได้อย่างยากลำบาก

มีประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 36,307 คน และต้องอพยพประชาชนมากกว่า 18,500 คน ทางการจัดตั้งศูนย์พักพิงฉุกเฉิน 68 แห่ง เพื่อให้การช่วยเหลือกระจายไปตามท้องที่ต่างๆ  ถนนหลายสายทั่วมาดากัสการ์ตอนเหนือไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งรวมถึงบางส่วนของถนนทางหลวงหมายเลข 5 และ 6 ส่วนการประเมินความเสียหายอาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงเลวร้าย

ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มเติมในพื้นที่ราบลุ่มและบริเวณที่มีระบบระบายน้ำล้นได้ง่าย การอพยพในพื้นที่ น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม  ภาคธุรกิจ การคมนาคม และสาธารณูปโภคต้องหยุดชะงัก สะพานหรือถนนบางแห่งไม่สามารถสัญจรได้ เที่ยวบินที่สนามบินภูมิภาคต้องหยุดชะงัก และการปิดท่าเรือชั่วคราว

ทางด้านพลเอก เอแลค แอนเดรียคายา ผู้อำนวยการสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ของมาดากัสการ์ กล่าวว่า การที่พายุไซโคลนมีรูปแบบการเคลื่อนตัวแบบนี้ถือว่าหายากมาก เพราะการเคลื่อนไหวของมันแทบจะหยุดนิ่ง แต่พอหยุดนิ่งสักพัก โครงสร้างภายในพายุทั้งหมดก็เกิดการปั่นป่วนเปลี่ยนทิศทาง ทำให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมใหญ่ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน

ที่มา crisis24
ภาพจาก AFP