หน้าแรก > ภูมิภาค

ลูกชายดับเครื่องชน พ่อแอบลักไฟหลวงใช้ในโรงงานทำน้ำแข็ง ร้องเรียนไปปีกว่าเงียบ เผยยอมถูกตัดกองมรดกดีกว่าต้องติดคุก

วันที่ 29 มีนาคม. 2024 เวลา 03:22 น.


ลูกชายดับเครื่องชน พ่อแอบลักไฟหลวงใช้ในโรงงานทำน้ำแข็ง ร้องเรียนไปปีกว่าเงียบ เผยยอมถูกตัดกองมรดกดีกว่าต้องติดคุก

วันที่ 28 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี อดีตผู้จัดการโรงงานน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอเมืองนนทบุรี ว่า ตนเป็นลูกชายคนโตของเจ้าของโรงงานน้ำแข็งในจังหวัดนนทบุรี เคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโรงงานน้ำแข็งแห่งนี้มานานหลายปี ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากโรงงานเมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 หลังตนได้ล่วงรู้ความจริงว่า โรงงานผลิตน้ำแข็งของพ่อตน มีการลักลอบแอบพ่วงไฟฟ้าหลวงมาใช้ในการผลิตน้ำแข็งออกขาย หลังทราบความจริงตนจึงได้ทักทวงให้พ่อหยุดการกระทำดังกล่าว แต่พ่อกลับอ้างว่าไม่ได้ทำ

จากนั้นเมื่อตนนำค่าไฟฟ้าย้อนหลังในแต่ละปีมาตรวจสอบดูก็พบว่ามีความผิดปกติอยู่ จากเดิมที่เคยจ่ายอยู่เดือนละเกือบ 4 แสนบาท กลับมาเหลืออยู่เพียง 2 แสนกว่าบาท ทำให้ตนเองตัดสินใจขอลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการโรงงานน้ำแข็งดังกล่าว เพราะเกรงว่าวันหนึ่งหากทางโรงงานน้ำแข็งของพ่อตนถูกร้องเรียนและตรวจสอบเหมือนคราวที่ถูกเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหรือค้ามนุษย์แบบครั้งก่อน ตนจะถูกดำเนินคดีแล้วติดคุกอีกครั้ง เพราะในครั้งนั้นที่ตนต้องขึ้นศาลไปถูกพิจารณาในฐานะผู้จัดการโรงงาน ศาลยังได้ตักเตือนตนเอาไว้ว่า อย่าไปมีส่วนรวมในความผิดทำนองนี้อีก เมื่อรู้ว่ามีความผิดแล้วแต่ไม่ทักทวงหรือห้ามปราม ก็เท่ากับรู้เห็นเป็นใจให้กระทำการนั้นไปด้วย

จึงเป็นเหตุทำให้ตนเองตัดสินใจเดินเข้าไปบอกกับพ่อ เจ้าของโรงงานน้ำแข็งว่า ตนขอลาออกจากการเป็นผู้จัดการโรงงานแล้วช่วยเอาชื่อตนออกจากโรงงานไปด้วย ตนไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับโรงงานแห่งนี้อีกต่อไป และตนได้เปลี่ยนชื่อแล้วกลับไปใช้นามสกุลของแม่แทน ส่วนเรื่องมรดกในอนาคตนั้น ตนเองไม่คาดหวังอยู่แล้ว ยอมรับในสิ่งที่ตนได้ตัดสินใจลงไป และยอมให้พ่อตัดชื่อออกจากกองมรดก ยังดีกว่าที่ตนเองได้รับมรดกมาแล้วต้องมาติดคุกแทน โดยที่ไม่ได้ใช้เงิน แบบนั้นตนยอมถูกตัดชื่อไม่มีอะไรดีกว่า มีแรงมีลมหายใจก็สร้างด้วยตัวเองได้

นายบีอดีตผู้จัดการโรงงานน้ำแข็ง ยังกล่าวอีกว่า หลังตนลาออกมาได้ปีกว่าๆ แล้ว ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ของพ่อเลิกแอบพ่วงไฟฟ้าหลวงมาใช้อีกหรือไม่ เพราะตนได้ทวงติงก่อนจะขอลาออกไปแล้วว่า ขอให้พ่อหยุดการกระทำแบบนี้ แม้ตนจะถูกพ่อด่ากลับมาว่าไอ้ลูกทรพีก็ตาม แต่ตนก็ยังรู้สึกสบายใจมากกว่าที่ลาออกมาทำงานหากินแบบสุจริต ดีกว่าไปมีตำแหน่งแล้วนั่งรอว่าวันหนึ่งวันใดตนจะต้องติดคุกอีกครั้งเพราะพ่อ

พิรฎา  

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม