หน้าแรก > อาชญากรรม

บุกโกดังแก๊งเวียดนาม ลอบขายนมผงปลอม ผ่านสื่อออนไลน์ เงินหมุนเวียนนับ 10 ล้านบาท

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 02:26 น.


บุกโกดังแก๊งเวียดนาม ลอบขายนมผงปลอม ผ่านสื่อออนไลน์ เงินหมุนเวียนนับ 10 ล้านบาท

(28 ก.พ.67) สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.2  ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านสายด่วน 1441 และช่องทางเพจ Facebook ชื่อบัญชี “ตำรวจไซเบอร์ 2 บก.สอท.2” ได้รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่าได้มีกลุ่มบุคคลใช้เว็บไซต์ มีการโพสต์ประกาศจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารประเภทนมผง และโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำให้มีความน่าเชื่อถือ

ต่อมาผู้แจ้งได้ทำการสั่งซื้อและได้ชำระเงินเพื่อซื้อนมผงยี่ห้อหนึ่ง แต่เมื่อได้รับสินค้าปรากฏว่าได้รับสินค้าเป็นนมผง ที่ไม่ตรงตามที่ตนสั่งซื้อ และเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ราคาไม่สมเหตุสมผล และมีการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) จึงหลงเชื่อคิดว่าเป็นพัสดุของตนที่ภายในบรรจุผลิตภัณฑ์นมผงที่ตนสั่งซื้อ จึงได้จ่ายเงินค่าพัสดุเก็บเงินปลายทาง (COD) ดังกล่าว แต่เมื่อเปิดพัสดุออกมาพบว่าเป็นนมผงยี่ห้ออื่น ซึ่งเป็นสินค้าที่ตนไม่ได้สั่ง และตรวจสอบไม่พบเลขสารบบการอนุญาตของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำให้ผู้บริโภคไม่กล้ารับประทานกลัวว่าหากดื่มกินเข้าไปแล้วจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงทำให้เชื่อว่าตนถูกหลอกลวงจากการกระทำดังกล่าว จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ตรวจสอบ  

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้มีลักลอบจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหาร ประเภทนมผง ยี่ห้อหนึ่ง มาแล้วจำนวนกว่า 3-4 เดือน โดยจากการตรวจสอบข้อมูลการส่งพัสดุ กับบริษัทขนส่งเอกชน พบว่า ในเดือน มกราคม 2567 ผู้ส่งรายดังกล่าว ได้มีการ ส่งพัสดุจำนวน 4,646 ชิ้น และมีการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) จากผู้รับพัสดุ โอนเข้าไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส. เอ นามสมมุติ (ผู้ลงทะเบียนในระบบเก็บเงินปลายทาง COD)  เป็นเงินจำนวน 9,994,000 บาท

จากนั้นพบว่า น.ส.เอ ได้โอนเงินจำนวน ดังกล่าวไปให้ MISS THANH สัญชาติเวียดนาม เป็นเงินจำนวน 1,345,696 บาท และโอนเงินไปให้นายบี (นามสมมุติ) จำนวน 7,570,000 บาท ในระยะเวลาใกล้เคียงกันหลังจากได้รับการเงินจากบริษัทขนส่งเอกชนฯ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อได้ว่า MISS THANH และนายบี เป็นบุคคลผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง จากการจำหน่ายสินค้าที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับบุคคลทั้ง 3 ดังกล่าว

ต่อมา ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวราวุธ ยันต์เจริญ ผู้ช่วยรัฐมนตรี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2, พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.เอกภณ คณะญาพงศ์ และ พ.ต.ท.ไกรพล แสงดึก รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข นำโดยนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, เภสัชกร วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งออกเป็น 4 จุด ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรสาคร

โดยมีจุดตรวจค้นที่น่าสนใจคือที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสาม  อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสินค้าที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก จากการตรวจค้นพบ MR.DINH และ MISS THAN สัญชาติเวียดนาม แสดงตนเป็นผู้ดูแลบ้าน และนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น จากการตรวจค้นพบของกลาง ได้แก่ สินค้า ผลิตภัณฑ์อาหาร ประเภทนมผง และผลิตภัณฑ์อื่นที่เข้าข่ายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย รวมเป็นจำนวนกว่า 10,000 ชิ้น ซึ่งบุคคลทั้งสองให้การ มีไว้จำหน่ายให้บุคคลทั่วไปผ่านเว็บไซต์และแพลตฟอร์มต่างๆ ทางโลกออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพื่อตรวจสอบ และได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ MR.DINH และ MISS THAN สัญชาติเวียดนาม ผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว    เบื้องต้นว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.ก.การทำงานของคนต่างด้าว ม.8 และความผิดตามกฎหมา พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และความผิดอื่นฯและนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และจากการตรวจค้นอีกจำนวน 3 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบ น.ส.เอ และ นายบี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า  “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพอาหาร หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีกรายสัญชาติเวียดนามหลบหนีการจับกุมอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม