หน้าแรก > อาชญากรรม

กัน จอมพลัง บุกพัทยา ช่วยเหลือน้องวัย 7 ขวบ เด็กหญิงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ถูกหนุ่มหื่นอนาจารล่วงละเมิด แถมครอบครัวถูกตามเยาะเย้ยถึงห้องพัก

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 04:44 น.


กัน จอมพลัง บุกพัทยา ช่วยเหลือน้องวัย 7 ขวบ เด็กหญิงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ถูกหนุ่มหื่นอนาจารล่วงละเมิด แถมครอบครัวถูกตามเยาะเย้ยถึงห้องพัก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ก.พ.67 มีรายงานว่า ที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี “กัน จอมพลัง” หรือ “กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์” ได้พา น.ส.ตุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี คุณแม่ พร้อมด้วยลูกสาว ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน และ น.ส.วัน (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี พยานในเหตุการณ์ เข้าพบ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกชายไทยวัยกลางคน หื่นกามกระทำการอนาจาร ภายใน คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ จ.ชลบุรี

โดย น.ส.ตุ้ย แม่ของ ด.ญ.เอ สาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 7 ขวบ เล่าให้ฟังว่า ช่วงหัวค่ำของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วรรณ เพื่อนบ้าน โทรศัพท์มาบอกว่า เห็นลูกสาวของเธอ ถูกชายไทยวัยกลางคน ซึ่งพักอาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน เข้ามาลวนลาม และอนาจาร โดยใช้มือล้วงไปที่อวัยวะเพศของลูกสาวเธอ หลังรู้ข่าว ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะรีบเดินทางกลับจากที่ทำงานทันที เพื่อมาดูลูกสาว ก่อนจะพาเดินทางเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล เพื่อดำเนินคดีกับชายผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

ภายหลังแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน ได้ทำหนังสือเพื่อส่งตัวลูกสาว ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางละมุง ในวันเดียวกัน ถัดมาไม่กี่วันพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นัดตัวเธอ ลูกสาว และพยาน ไปพบที่สถานีตำรวจ เพื่อสอบปากคำ และวันรุ่งขึ้น ชุดสืบสวนได้แจ้งเข้าให้เธอพาตัวลูกสาวผู้เสียหายไปชี้รูปยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นแต่เรื่องก็เงียบไป เมื่อไปทวงถามกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ด้วยความที่ไม่รู้กฎหมาย เพราะว่า ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุ สามารถไปจับเลยได้ไหม เจ้าของคดีตอบกลับว่า “จับได้ไง ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า จับได้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น”

ทั้งนี้ เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกจากปากตำรวจ ถึงกับเคว้งคว้าง เหมือนคนไร้ที่พึ่ง โดยนับตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนถึงทุกวันนี้ หลังจากพ่อไปรับหลังเลิกเรียนจะพ่อลูกสาวเข้าห้องทันที และไม่กล้าให้ลูกสาวออกไปเล่นพื้นที่ส่วนกลางเหมือนกับที่เคยผ่านมา และทุกครั้งที่ลูกสาวอยากว่ายน้ำ จะมีพ่อลงไปคุมเฝ้าไม่ให้คาดสายตา ส่วนชายผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุไม่กี่วัน ทำทีเดินผ่านที่ห้องและแสดงท่าทีที่เยาะเย้ยกับคนในครอบครัว จึงขอฝากไปถึงผู้ก่อเหตุให้เลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว ถ้าหากรู้สึกมีอารมณ์ก็ไปหาซื้อบริการเอา อย่ามาทำลักษณะดังกล่าวให้เธอ และลูกสาว รวมถึงคนในครอบครัวเกิดรู้สึกไม่ดีไปตลอดชีวิต ส่วนอาการลูกสาวซึ่งตอนนี้ดีขึ้นมาก ต่างกับช่วงแรกที่เกิดเหตุซึ่งมีอาการรู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศ
ขณะที่ น.ส.วรรณ เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า หลังจากกลับจากรับประทานอาหาร ระหว่างเดินขึ้นห้องพัก เห็นหลานสาว นั่งอยู่กับผู้ก่อเหตุ ในลักษณะถ่างขาที่โซฟา ก้มหน้าเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ โดยที่ชายผู้ก่อเหตุหันหน้าเข้าหาน้อง พร้อมกับเอามือล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศของตัวน้อง จึงได้เดินปรี่เข้าไปต่อว่า ทำให้ชายผู้ก่อเหตุตกใจและอ้างว่า “ผมไม่ได้ทำกับพี่” ก่อนที่เธอจะอุ้มตัวน้องพาออกไปข้างนอกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีไป เมื่อถามน้องว่า ผู้ก่อเหตุได้พูดอะไรไหม น้องบอกว่าให้หนูอยู่เป็นเพื่อน และเอาโทรศัพท์ให้น้องเล่นเกมส์ เพื่อใช้ในการล่อลวงเพื่อกระทำการอนาจาร

ทางด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่อง จึงได้พาครอบครัวเหยื่อ และพยาน เข้าพบ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อช่วยเหลือการติดตามในทางคดี และคำพูดที่ออกจากปากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รวมถึงความปลอดภัยต่างๆเพราะว่า ตัวผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในคอนโดมิเนียม ซึ่งก็มั่นใจทาง ผกก.พัทยา จะสามารถดำเนินการตามกฏหมายจับตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน เพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน สมัยอยู่โรงพัก โพธิ์กลาง โคราช รวมถึงของคุณไปยังหน่วยงานอื่นๆที่ได้เข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้ พร้อมทั้งขอฝากไปถึงผู้ก่อเหตุด้วยว่า ความสุขของท่านน้อยลงเต็มที และหลังจากที่ชายดังกล่าวที่ได้ก่อเหตุ อาจจะมีความสุขแค่ได้ไม่กี่นาที แต่หลังจากนี้เวลาของคุณใกล้หมดลงแล้ว

เบื้องต้น พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา อันดับแรกได้กล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย แทนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่อาจจะสื่อสารกันไม่ตรงกัน จึงทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจ ซึ่งยืนยันว่า ตำรวจได้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้ก็รู้ตัวคนร้ายเรียบร้อย อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ แต่เนื่องด้วยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดกับเยาวชน จำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ โดยหลังจากนี้ จะได้นัดไปสอบปากเหยื่อต่อหน้าสหวิชาชีพ ซึ่งขอเวลาไม่เกิน 7 วัน จะสามารถออกหมายจับ และจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

เครดิต ฉลาม นิวส์ 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม