5 ก.พ.2567 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้ายอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในพื้นที่ตอนกลางของชิลี ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 99 รายแล้ว 
หลังไฟป่าปะทุตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า

ขณะที่ประธานาธิบดีกาเบรียล บอริก ผู้นำชิลี เตือนว่าความสูญเสียจะเพิ่มขึ้นและว่าหน่วยกู้ภัยยังระดมกำลังค้นหา รวมถึงช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง “เรารู้ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นายบอริกย้ำภายหลังประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชน พร้อมระบุว่าเหตุไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดของประเทศนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตม ากกว่า 520 ราย

หน่วยงานบริการด้านภัยพิบัติแห่งชาติ (SENAPRED) ระบุว่าไฟเผาวอดพื้นที่ป่าเกือบ 28,000 เฮกตาร์ (175,000 ไร่) ทั่วทั้งตอนกลางและตอนใต้ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1,400 นาย ทหาร 1,300 นาย อาสาสมัครจำนวนมาก พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินบรรทุกน้ำรวม 31 ลำเร่งดับไฟป่า

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าบ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย รวมถึงมากกว่า 3,000 หลัง ในภูมิภาค บัลปาราอีโซ เพียงแห่งเดียว พื้นที่ชายฝั่งทางตะวันตกของเมืองหลวง ซานติอาโก ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยทางการได้ประกาศเคอร์ฟิวเริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น.ของวันเสาร์  (ตามเวลา ท้องถิ่น)

นายอัลวาโร ออร์มาซาบัล หัวหน้าหน่วยภัยพิบัติ กล่าวว่านักดับเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่า 34 จุดเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.2567 ขณะที่ไฟป่าอีก 43 จุดสามารถควบคุมได้แล้ว รายงานระบุด้วยว่าไฟป่าที่โหมไหม้ลุกลามเกิดขึ้นจากคลื่นความร้อนและปรากฏการณ์เอลนิโญที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในอเมริกาใต้

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไฟป่าในปีนี้ได้รับแรงหนุนจากคลื่นความร้อนในฤดูร้อนและความแห้งแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนิโญ 

ขณะเดียวกันกองทัพอาร์เจนตินาเร่งระดมกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เผาวอดพื้นที่กว่า 18,750 ไร่ ในอุทยานแห่งชาติลอสอาแลร์เซส บริเวณเทือกเขาแอนดีส รัฐชูบุต ทางตอนใต้ของประเทศ หลังปะทุเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา