(24 ธ.ค. 66) พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมคณะ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ตรวจสอบการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ ห้างสรรพสินค้าท็อปส์ สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว และห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาลาดพร้าว เขตจตุจักร โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตจตุจักร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน และสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค (อสคบ.) กรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า วันนี้เป็นการตรวจติดตามว่าการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่เป็นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องดูรายละเอียด อาทิ มีสินค้าอะไรในกระเช้าบ้าง สินค้าในกระเช้าตรงตามที่แจ้งในฉลากสินค้าหรือไม่ โดยสินค้าแต่ละชิ้นจะต้องมีวันหมดอายุเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน กระเช้าของขวัญประเภทผัก/ผลไม้สดที่จัดไว้แล้ว ต้องตั้งวางกระเช้ารอจำหน่ายไม่เกิน 3 วัน รวมถึงให้ดูฉลากอาหารต้องมีเครื่องหมาย อย. รับรองไว้บนสินค้าอย่างชัดเจน เป็นต้น นอกจากนี้หากสินค้ามีสภาพชำรุดเสียหายก่อนวันหมดอายุ มีอายุไม่ถึง 6 เดือน หรือสินค้าในกระเช้าไม่ตรงกับรายละเอียดที่แจ้งไว้สามารถนำมาเปลี่ยนหรือคืนได้ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งนอกจากการสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมีการลงพื้นที่สุ่มตรวจการจัดจำหน่ายชุดสังฆทานด้วย สำหรับภาพรวมในการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้ง 2 แห่ง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือผู้จัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญและชุดสังฆทานต่าง ๆ ให้ดำเนินการเป็นไปตามแนวทางหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพราะหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิด หรือไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้จะต้องโทษโดยโทษมีทั้งปรับและจำคุก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้กระทำผิดได้รับการดำเนินคดีไปแล้วหลายราย

ด้านปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ฉลากสินค้าในแต่ละกระเช้าเป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้สิทธิของตนและจะต้องดูในรายละเอียดให้ชัดเจน ในการส่งความสุขปีใหม่อยากให้ทุกคนซื้อในร้านที่มีการทำถูกต้องเพื่อที่จะได้รับสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ เพราะหากซื้อในร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีฉลากสินค้าในกระเช้า บางร้านเป็นการตกลงกันเอง ก็อาจจะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งในช่วงนี้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้ร่วมกับ สคบ. สุ่มตรวจการจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ทั่วพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในการเลือกซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ว่าจะได้รับของที่ดี มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญปีใหม่แสดงฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง ผู้ขายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการกระทำของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือสั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจหรือพบว่ากระเช้าของขวัญปีใหม่ไม่มีการจัดทำฉลาก สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สคบ. ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สายด่วน สคบ. 1166 หรือแอพพลิเคชั่น OCPB Connect หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค (OCPB Complain Mobile Application)