หน้าแรก > สังคม

ปีใหม่นี้ 'วัดมหาธาตุ' พระอารามหลวงแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เปิดเข้าชมครั้งแรก สมโภช 338 ปี ยิ่งใหญ่ 7 วันเต็ม

วันที่ 2 ธันวาคม 2566 เวลา 15:43 น.


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส แถลงข่าว “เปิดม่านงานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ราชวรมหาวิหารW โดยงานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ราชวรมหาวิหาร จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองสมโภชพระอาราม และรำลึกถึงบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ประกอบกับโอกาสปีมหามงคลในปี 2567 ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบหรือ 72 พรรษา การจัดงานครั้งนี้จึงถือเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน และเป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน ได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงได้ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด ศิลปวัฒนธรรมที่งดงามของไทย และร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

"การจัดกิจกรรมสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ราชวรมหาวิหาร ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางวัดได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาชมความสวยงาม ได้สัมผัสถึงความงดงามของเอกลักษณ์ ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการต่อยอดสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์เชิงวัฒนธรรม ที่สร้างมูลค่าและก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย มาสัมผัสความงดงามอันทรงคุณค่าของไทย ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นบุญกุศลแก่ตนเองและครอบครัว ในโอกาสที่ส่งท้ายปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ และเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดง การละเล่น การออกร้านค้า รวมถึงกิจกรรมสวดมนต์เจริญจิตภาวนาข้ามปี ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2566 - 2 มกราคม 2567"

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ ราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดสลัก สันนิษฐานว่า วัดนี้แต่ก่อนมีพระภิกษุเป็นช่างฝีมือแกะสลักอยู่จำนวนมาก อาจเป็นเหตุให้ชาวบ้านเรียกชื่อวัดว่า วัดสลัก เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งเมืองธนบุรีเป็นราชธานี สร้างพระนครทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา วัดสลักอยู่ในพระนครฝั่งตะวันออก จึงทรงยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เป็นที่สถิตของพระราชาคณะ ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนารถ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ย้ายพระนครมาฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้มีวัดที่อยู่ใกล้ชิดพระราชวังที่สร้างขึ้นใหม่ 2 วัดคือ

1. วัดโพธาราม อยู่ชิดกับพระบรมมหาราชวังข้างด้านใต้ รัชกาลที่ 1 ทรงสถาปนาวัดนี้และพระราชทาน นามว่า "วัดพระเชตุพน"

2. วัดสลัก อยู่ข้างเหนือพระบรมมหาราชวัง แต่อยู่ชิดด้านใต้พระราชวังบวรฯ สมเด็จพระอนุชาธิราชกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงสถาปนาวัดสลักและขนานนามใหม่ ชื่อว่า วัดนิพพานาราม วัดพระศรีสรรเพชญ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เพิ่มสร้อยนามของวัด เป็น วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

 

 

 

 

 

 


 

ข่าวยอดนิยม