กองปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายเอกณรงค์ อายุ 28 ปี และ นายชัชวาล หรือต้อม อายุ 36 ปี ส่วน นายพยัคฆ์ หรืออาร์ต อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาในแก๊งอีกราย พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง เจ้าของคดีได้ทำเรื่องอายัดตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว เนื่องจากปัจจุบันผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำในคดีอื่น โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายถูกศาลออกหมายจับ ฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือ ทรัพย์ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งไม่ได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงค์ให้เป็นทางคนเข้า หรือเข้าทางช่องทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha คันที่ใช้ในการก่อเหตุ  , กระเป๋าสีดำภายในบรรจุอุปกรณ์ช่าง จำนวน 1 ใบ ,อุปกรณ์ตัดสายไฟ จำนวน 17 ชิ้น , คีมตัดเหล็กใหญ่ จำนวน 1 อัน และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้มาพบเจอกันที่ “ชุมชนคนไร้เสียง” บริเวณใต้ทางด่วนพระราม 9 ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยของคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน โดยนายเอกณรงค์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา เป็นผู้พิการเป็นใบ้หูหนวก มักจะได้พบเจอกับนายชัชวาล และนายพยัคฆ์ อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาสามารถสื่อสารกันด้วยตัวอักษรภาษาไทย และภาษามือได้  จากนั้นรวมตัวกันลักขโมยของ และมีความชำนาญในการตัดกุญแจ แอบลักลอบเข้าอาคาร ย่องเบาเป็นอาชีพ

ต่อมาเมื่อกลางดึกของวันที่ 13 สิงหาคม 2566 กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการนัดหมายกันเพื่อตระเวน ก่อเหตุลักสายเมนไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อนำทองแดงที่อยู่ภายในสายไฟฟ้าไปขาย โดยผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปสำรวจพื้นที่ในการก่อเหตุ ป้ายโฆษณาจอดิจิทัลขนาดใหญ่ บนอาคารสุวรรณชิน ซอยชุ่มชื่น  เขตดินแดง กรุงเทพ กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุตัดเหล็กล็อกประตูอาคารร้างที่อยู่ติดกันกับอาคารสุวรรณชิน ก่อนจะลักลอบขึ้นไปบนดาดฟ้าอาคารดังกล่าว จากนั้นได้ปีนข้ามไปยังอาคารสุวรรณชิน และตัดสายไฟฟ้าของป้ายโฆษณาดังกล่าวไป โดยหลังจากก่อเหตุคนร้ายทั้ง 3 ราย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป 
 

จากการสอบสวนนายชัชวาลให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายเอกณรงค์ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกับนายพยัคฆ์ และนายชัชวาล ลักทรัพย์ (สายไฟ) ที่อาคารสุวรรณชิน เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยตนมีหน้าที่เก็บม้วนสายไฟหลังจากที่นายพยัคฆ์และนายชัชวาล ตัดสายไฟมาแล้ว ส่วนสายไฟฟ้าที่ลักมานั้น ได้นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งในย่านเทียมร่วมมิตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป