หน้าแรก > ภูมิภาค

จ.นครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมคั่วตอกเข้าพรรษา ทำขนมขี้หมาพองเซ ในเทศกาลเข้าพรรษา เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 เวลา 04:59 น.


จ.นครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมคั่วตอกเข้าพรรษา ทำขนมขี้หมาพองเซ ในเทศกาลเข้าพรรษา เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

(2 ส.ค.66) ที่บริเวณลานทรายหน้าพิพิธภัณฑ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในกิจกรรมคั่วตอกเข้าพรรษา ทำขนมขี้หมาพองเซ ในประเพณีวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาประจำปี 2566 โดยมีนางพิชานันทน์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมคั่วข้าวตอก และทำขนมขี้หมาพองเซ ซึ่งสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ฟื้นฟูการทำขนมทั้งสองนี้ขึ้น เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สำหรับการทำขบมเข้าพรรษา (คั่วข้าวตอก) "ขนมเข้าพรรษา" เป็นขนมที่ปรุงขึ้นเฉพาะวันเข้าพรรษาประเทศไทยมีอัตลักษณ์เรื่องอาหารการกินที่โดดเด่นและรู้จักกันกว้างขวางทั่วโลก จนกระทั่งได้รับการยอมรับว่าเป็น "ครัวโลก"

เช่นเดียวกับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีอาหารและขนมหลายอย่างที่รับประทานได้ทั้งปี เช่น ขนมจีน ข้าวยำ หรือรับประทานได้ในบางเทศกาล เช่น ข้าวตอก และขนมขี้หมาพองเชเป็นต้น เฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา (เดือนแปด) ชาวนครสมัยก่อนนิยมทำขนมสำหรับถวายพระสงฆ์และรับประทานร่วมกันในครัวเรือนและชุมชน คือ "ข้าวตอก" และ "ขนมขี้หมาพองเช" "ข้าวตอก" ปรุงขึ้นจากข้าวเปลือกเหนียว ซึ่งชาวบ้านสมัยก่อนปลูกไว้ในแปลงนา เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วก็จะนำมาไว้ในยุ้ง (เรือนข้าว) ร่วมกับข้าวเจ้า เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา ก็จะนำมาคั่วในกระทะเพื่อให้แตกเมล็ดออกเป็นข้าวตอกส่วน "ขนมขี้หมาพองเช" เป็นขนมเฉพาะถิ่นลุ่มน้ำปากพนัง ที่ใช้ข้าวตอกมาเป็นวัตถุดิบเพื่อปรุงเป็นขนมโดยการคลุกด้วยน้ำผึ้ง ทำเป็นก้อนๆ คล้ายกับมูลสุนัข จึงเรียกว่า "ขนมขี้หมาพองเช" ขนมโบราณทั้งสองชนิดนี้เป็นมรดกภูมิปัญญาอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสะท้อนถึงความรู้ด้านการถนอมอาหาร และคงความสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน ที่นับวันจะจางหายไปกับกระแสรสนิยมใหม่เฉพาะปีนี้ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ฟื้นฟูการทำขนมทั้งสองนี้ขึ้น เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช 

 

 

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม