24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2566
>> พบร่างเด็กชายวัย 9 ขวบ จมน้ำหาดแม่รำพึงแล้ว หลังปูพรมค้นหากว่า 20 ชม.
09.30 น. ความคืบหน้าการค้นหาร่างเด็กชายกวิน อายุ 9 ปี เดินทางมาจากปราจีนบุรี พร้อมครอบครัวและญาติ เพื่อมาเที่ยวชายหาดทะเลระยองในช่วงวันหยุดยาว ถูกคลื่นทะเลพัดจมหายไปในทะเลบริเวณชายหาดแม่รำพึง ตรงข้ามกับหมู่บ้านเอกเขนก ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ขณะกำลังเกาะห่วงยางลอยคอเล่นน้ำอยู่ในทะเล คลื่นทะเลพัดกระแทกห่วงที่เกาะอยู่ จนห่วงยางหลุดออกจากมือ ก่อนคลื่นทะเลจะพัดร่างของเด็กชายกวินจมทะเลหายไป
จนท.ระดมเร่งค้นหาเด็กชายกวิน ท่ามกลางคลื่นสูง ลมแรง ในที่สุดพบร่างลอยขึ้นมาเกยติดโขดหิน บริเวณลานหินดำ ห่างจุดเกิดเหตุจมน้ำ 500 เมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพขึ้นมา เบื้องต้นตำรวจ และแพทย์โรงพยาบาลระยอง ร่วมกันสูตรพลิกศพและส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลระยองอีกครั้ง ก่อนมอบให้ครอบครัวนำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
>> รถปั่นจั่นตอกเข็ม หล่นจากรถเทลเลอร์ ทับคนงานเสียชีวิต
10.00 น. สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถปั่นจั่นตอกเสาเข็มหล่นทับคนงานเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณกลางทุ่งนา ม.3 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี
ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นทางเข้ากลางทุ่งนา เส้นทางเข้านั้นแคบและมีทางโค้งหลายโค้ง โดยพบรถเทรลเลอร์พลิกตะแคงอยู่ใกล้กันพบรถปั่นจั่นตอกเสาเข็มพลิกตะแคงอยู่ ใต้รถปั่นจั่นพบศพเป็นชายทราบชื่อต่อมาคือ นายอาทิตย์ อายุ 27 ปี ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนงานขับรถปั่นจั่นตอกเสาเข็ม
จากการสอบถามนายสายัณห์ คนขับรถเทรเล่อร์ ก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้ตนกับผู้ตายได้นำรถปั่นจั่นขึ้นรถเทรเล่อร์เพื่อจะมาลงที่บ้านลูกค้า ซึ่งจ้างมาตอกเสาเข็มรั้วบ้านใกล้กับจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากทางเข้ามานั้นคดเคี้ยวและมีโค้งเยอะ ทำให้รถเทรเล่อร์เลี้ยวไม่พ้นล้อหลังด้านขวาตกไหล่ถนนประกอบกับช่วงนั้นมีฝนตกลงมาด้วย ผู้ตายจึงลงไปเพื่อจะไปขึ้นขับรถปั่นจั่นลง แต่จังหวะนั้นรถปั่นจั่นก็ไหลลงมาทับผู้ตายพอดี ทั้งที่ตนพยายามห้ามไม่ให้ขึ้นไป แต่ก็ไม่ทันแล้ว ซึ่งผู้ตายนั้นตั้งใจบวชในปีหน้า และตั้งใจมาหลายปีแล้วแต่ช่วงนั้นมีโควิดระบาด ทำให้ยังไม่ได้บวช และก็มาเสียชีวิตก่อน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนช็อคมากเพราะเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี และทำงานกับผู้ตายมานานก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสายัณห์ ไปทำการสอบปากเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป
>> หนุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขี่รถ จยย.พลัดตกสะพานดับอนาถ
11.00 น. สน.บางชัน รับแจ้งเหตุพบศพชายลอยน้ำในคลองลำเก็ด พร้อมรถจยย. เหตุเกิดในคลอง ซอยรามอินทรา 93 แขวงและเขตคันนายาว กทม.
ที่เกิดเหตุพบศพนายอุ่น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ลอยขึ้นอืดในคลอง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ใกล้กันในน้ำพบรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีเทาดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ของผู้เสียชีวิต
จากการสอบสวน น.ส.แหม่ม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ทราบข่าวมาดูที่เกิดเหตุให้การทั้งน้ำตาว่า นายอุ่น เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยพักอยู่ในซอยรามอินทรา 62 ก่อนเกิดเหตุมาทำงานรับเหมาในซอยรามอินทรา 99 ทราบจากเพื่อรร่วมงานว่า ช่วงคืนวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา นายอุ่น ขี่รถจากซอยรามอินทรา 99 ออกทางลัดเพื่อไปซื้อวัสดุก่อสร้างเพิ่มเติมที่ปากซอยรามอินทรา 93 และหายตัวไป 3 วัน แจ้งความคนหายไว้ที่ สน.บางชัน
ด้าน พ.ต.ท.รามน้อย กล่าวว่า คาดผู้เสียชีวิตขี่รถมาตามถนนสะพานปูนเลียบริมคลองเมื่อจะเลี้ยวขวาขี่ขึ้นสะพานไม้ข้ามคลอง ช่วงดังกล่าวเป็นพื้นถนนต่างระดับทำให้เมื่อหักเลี้ยวรถทันที่ รถเสียหลักล้มนายอุ่นรับบาดเจ็บพลัดตกไปในน้ำพร้อมรถและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กระทั้งผ่านไป 3วันศพลอยขึ้นมา นำศพส่งชันสูตร รพ.ตำรวจ และให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
>> รถกระบะพุ่งชนเสาไฟ บาดเจ็บหลายราย
11.01 น. ศูนย์บริการข้อมูลอุบัติเหตุและเจ็บป่วยฉุกเฉินหน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ (ไซทีฮุกตึ๊ง) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน สุโขทัย เสียหลักพุ่งชนเสาไฟตกลงร่องกลางถนน จุดเกิดเหตุ จุดเกิดเหตุ ถนนหลวงหมายเลข 11 วังทอง-สากเหล็ก หลักกิโลเมตรที่ 204 ช่วงบริเวณโค้งใกล้เคียงบริษัทมอนซานโต้ ม.11 ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา เข้าตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย เป็นเด็กหญิง 5 ราย , เด็กชาย 3 ราย , ผู้ใหญ่เป็นชาย 1 ราย , หญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวังทองให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลวังทอง เบื้องต้นสอบถามจากผู้ขับขี่ขับรถจากอำเภอบางระกำ เพื่อพาเด็กๆไปเล่นน้ำที่สวนน้ำเขตตำบลหนองพระ ระหว่างทางรถเกิดเสียหลักตกลงข้างทางพุ่งชนเสาไฟร่องกลางถนน สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง
>> ปลัดพาณิชย์สั่งเฝ้าติดตาม หลังอินเดียสั่งห้ามส่งออกข้าวขาว ก่อนประเมินสถานการณ์และทำแผนรับมือ
13.40 น. นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ที่ประจำอยู่ในประเทศที่มีการผลิตข้าว ส่งออกข้าว หรือนำเข้าข้าว ให้ติดตามสถานการณ์ข้าวอย่างใกล้ชิด หลังจากที่อินเดียได้ประกาศห้ามส่งออกข้าวขาว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.66 ที่ผ่านมา เพื่อนำข้อมูลหรือแนวโน้มที่เกิดขึ้น มากำหนดแผนและมาตรการในเรื่องข้าวของไทยต่อไป
เบื้องต้น ในประเทศไม่มีปัญหาขาดแคลนแน่นอน เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตข้าว และเหลือส่งออก แต่จะส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวมากกว่า ดังนั้น การส่งออกปีนี้ น่าจะเกิน 8 ล้านตัน จากที่ได้ตั้งเป้าไว้ และราคาข้าวในประเทศจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเกษตรกรที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์มีความเป็นห่วงในเรื่องของภัยแล้งที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญมากกว่า
โดยมีการประเมินกันว่าจะเกิดต่อเนื่อง 1-3 ปี ซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวของไทย และทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวไทยลดลง โดยล่าสุดได้มีการหารือกับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว เพื่อร่วมกันทำแผนรับมือ เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตลดลง
>> รถกระบะ เสียหลักตกร่องกลางถนน ก่อนพลิกคว่ำลงข้างทางในฝั่งตรงข้าม มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ
13.50 น. สมาคมกู้ภัยลำปางจุดแม่พริก ได้รับแจ้งรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ บนทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทางลำปาง - ตาก บริเวณเนินกิ่วสารภี ก.ม.ที่ 587 ในพื้นที่ อ.แม่พริก จ.ลำปาง
ที่เกิดเหตุพบ รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักตกร่องกลาง ก่อนจะพลิกคว่ำข้ามเลนไปลงข้างทางฝั่งตรงข้าม ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บติดภายในรถ อาสาสมาคมกู้ภัยลำปางจุดแม่พริก ได้นำเครื่องตัดถ่าง สนับสนุนที่เกิด และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 2 รายเป็นผู้ชาย 1 ราย และผู้หญิง 1 ราย จึงเร่งช่วยเหลือและนำส่ง รพ. แม่พริก ส่วนในที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง 2 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่พริก ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะมอบให้อาสานำร่างผู้เสียชีวิต ทั้ง 2 คนไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแม่พริกต่อไป
>> "ในหลวง" ทรงรับผู้ป่วยจากเหตุโกดังพลุระเบิดเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
14.45 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟ ระเบิดที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยทรงรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน รพ.สุไหงโก-ลก ทั้ง 10 คนไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
สำหรับการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ข้อมูลเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 30 ก.ค. มีผู้ที่ได้รับผลกระทบรวม 365 คน ขณะที่สำนักงานสาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก ร่วมกับโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ตั้งหน่วยปฐมพยาบาลที่กองอำนวยการ มีผู้ป่วยมารับบริการรวม 16 คน
ส่วนการดูแลด้านจิตใจ ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) ได้เข้าประเมินและเยียวยาจิตใจ 251 คน พบผู้มีภาวะเสี่ยง 77 คนใน 32 ครัวเรือน โดยพบมากสุดคือ ภาวะเครียด 60 คน ที่เหลือนอนไม่หลับ/ผวาฝันร้าย 6 คน, ใจสั่น 5 คน, เหม่อลอย 3 คน, หวาดระแวง 1 คน, ซึมเศร้า 1 คน และนอนสะดุ้ง ผวาตลอด (เด็กอายุ 17 เดือน) 1 คน ซึ่งทีม MCATT ในพื้นที่จะติดตามดูแลจนกว่าสภาพจิตจะเข้าสู่ภาวะปกติ
>> หยุด 3 วัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 81 ราย ปัจจัยเสี่ยงยังเป็นการไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มนัดนิรภัย และดื่มสุรา
14.49 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงหยุดยาว 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2566 ประชาชนมีการเดินทางมากกว่าปกติทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้มากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งเตรียมความพร้อมรองรับการดูแลรักษาผู้ป่วยกรณีเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 30 ราย บาดเจ็บ 1,287 ราย และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 383 ราย
ภาพรวมตั้งแต่วันที่ 28-30 กรกฎาคม 2566 มีผู้เสียชีวิตสะสม 81 ราย บาดเจ็บสะสม 4,419 ราย และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสะสม 1,120 ราย ปัจจัยเสี่ยงยังมาจากการไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุด 3,234 ราย คิดเป็นร้อยละ 87.17 ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 514 ราย คิดเป็นร้อยละ 82.5 ดื่มสุรา 629 ราย คิดเป็นร้อยละ 13.98 และพบว่ามีผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ดื่มสุราแล้วเกิดอุบัติเหตุ 65 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 3 อันดับ คือ นครศรีธรรมราช 6 ราย ปทุมธานี 5 ราย ชลบุรีและลำพูน จังหวัดละ 4 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ เชียงใหม่ 204 ราย เชียงราย 189 ราย และนครราชสีมา 150 ราย
>> ออกหมายจับ เจ้าของโกดังพลุระเบิดแล้ว ติดต่อมอบตัวรับทราบข้อหา 1 ส.ค.นี้
17.18 น. จากเหตุการณ์โกดังเก็บประทัดระเบิด ที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บอีกนับ 100 ราย และบ้านเรือนเสียหาย 300 หลัง ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.66 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ให้การช่วยเหลือ ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า มีการออกหมายจับเจ้าของกิจการมาดำเนินคดีแล้ว โดยวันที่ 1 ส.ค.66 เจ้าของกิจการจะเดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ทางด้าน นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวด้วยว่า ทางสาธารณสุขจังหวัดได้เข้าดูแลทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพใจ แก่ผู้ประสบเหตุ จัดทีมสุขภาพจิตลงพื้นที่สำรวจฯ ต่อไป จะเป็นการตรวจสอบในสภาพแวดล้อมอนามัยสิ่งแวดล้อมโดยรอบ โดยเฉพาะพื้นที่ไข่แดง ยังมีกลิ่นดินประสิว อบอวลอยู่ในพื้นที่ แต่จากการตรวจสอบ และวัดคุณภาพอากาศ pm2.5 มีค่า 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ยังอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
>> จยย. เสียหลักล้ม สาวซ้อนท้ายถูกรถโม่ปูนทับเสียชีวิตคาถนน
18.00 น. สน.ดินแดง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มถูกรถบรรทุกทับเสียชีวิต บริเวณทางโค้งถนนจตุรทิศ หรือเลียบบึงมักกะสัน ฝั่งขาออก แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
ที่เกิดเหตุ พบ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สีฟ้า ไม่ติดป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบ รถ 10 ล้อโม่ปูน ทะเบียน กทม. จอดอยู่โดยที่ล้อรถมาร่องรอยการทับคน จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้บาดเจ็บเป็นผู้ชาย 1 รายเป็นผู้ขับขี่ จยย. อาสานำส่ง รพ.เพชรเวช ส่วนจุดเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นส. พิมพรรณ อายุ 23 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ลักษณะถูกล้อรถบรรทุกทับ
เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเรียกใช้บริการรถจักรยานยนต์ผ่านแอปฯ ซึ่งมีนายศรัณยู เป็นผู้ขับไปรับผู้เสียชีวิตขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง รถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักล้ม ผู้ตายถูกล้อหลังรถบรรทุกปูนทับที่ศีรษะ ในส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน
>> ตร.ทางหลวงเดินหน้ากวดขัน-จับป้ายทะเบียนปลอม
20.43 น. กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายเจตนิพิฐ อายุ 34 ปี ฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” โดยจับกุมได้บริเวณถนน หน้าศูนย์ปฎิบัติการจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับการแจ้งเตือนของกล้องตรวจจับการกระทำความผิดจาก "ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย”(SVCC) ของกล้องตรวจจับแยกแม่กรณ์ ขาขึ้น ทล.1 อ.เมือง จ.เชียงราย ว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยใช้ป้ายทะเบียนปลอม สีแดง ผ่านบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันออกตรวจสอบและจับกุมได้
จากการตรวจสอบพบว่า แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงดังกล่าว เป็นป้ายปลอมทั้งแผ่นหน้าและหลัง และสมุดคู่มือประจำรถใช้กับเครื่องหมายพิเศษ 1 เล่ม ปลอม ซึ่งไม่ได้มาจากกรมการขนส่งออกให้
ทั้งนี้ นายเจตนิพิฐ ให้การว่ารถยนต์คันดังกล่าว เช่าซื้อมาจาก บริษัทหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยรับรถมาเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 แต่ยังไม่ได้ทะเบียนรถ อยู่ระหว่างให้ผู้แทนจำหน่ายจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบก โดยอ้างว่าทางบริษัทยังไม่มีป้ายแดงของกรมการขนส่งให้ เจ้าหน้านี่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถจักรยานยนต์ ชนท้ายรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิต
23.50 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถบรรทุก ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก บริเวณใกล้เคียงทางเข้าโรงเรียนวัดคู้บอน
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีขาว-ดำ ทะเบียน กทม. ลักษณะชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน สมุทรสาคร ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อ นาย ปิยะบุตร อายุประมาณ 24 ปี พื้นที่ สน.คันนายาว
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 692,525,972 ราย รักษาอาการดีขึ้น 664,597,693 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,903,467 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 107,511,126 ราย เสียชีวิต 1,169,796 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,995,588 ราย เสียชีวิต 531,916 คน (ยังเพิ่มขึ้น 1 คน)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 40,138,560 ราย เสียชีวิต 167,642 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,428,685 ราย เสียชีวิต 174,352 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,717,062 ราย เสียชีวิต 704,659 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ