วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 นายสมชาย แสวงการ สว. ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ 4 ข้อของพรรคเพื่อไทย พร้อมว่า ยินดีกับการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการเดินตามครรลองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงขอเสนอผ่านไปยังพรรคเพื่อไทยแกนนำใหม่ ควรแถลงประเด็นของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจนอย่างน้อย ดังนี้
- ตัวบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี
- พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ที่ต้องมีนโยบายร่วมสำคัญในการเดินหน้าประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีความสงบสันติสุข และไม่มีนโยบายใดๆจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือกลุ่มการเมือง กลุ่มอื่นๆที่พรรคการเมืองสนับสนุนในการแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา112 และมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กระทบต่อสถาบันหลัก คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งการกระทำโดยตรงของรัฐบาล รมต. ส.ส. และเครือข่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะกระทำเองหรือการให้การสนับสนุนใดๆ อีกต่อไป
- ไม่นิรโทษกรรมคดีทุจริตและคดี 112 หรือคดีอาชญากรรมร้ายแรง
- นโยบายด้านเศรษฐกิจนำพาสู่ประเทศพัฒนาแล้วที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม
- นโยบายด้านการต่างประเทศที่ไม่กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค
- นโยบายด้านการทหารและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศในทุกมิติ
- นโยบายด้านปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาสังคมเพื่อเด็กและเยาวชนให้ปลอดภัยจากสังคมสื่อโซเชี่ยลที่สร้างความเกลียดชังในปัจจุบัน
- นโยบายด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม
- นโยบายกระจายความเจริญลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างครอบคลุมทุกมิติ
- นโยบายแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่สนับสนุนการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนใดๆ
- นโยบายแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่เป็นรูปธรรม
ถ้าพรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ยังหาข้อสรุปร่วมให้ชัดเจนไม่ได้ ขอเสนอให้ทำเรื่องแจ้งต่อประธานรัฐสภา เพื่อเลื่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กค. ที่จะถึงนี้ออกไปก่อน เพื่อจะได้เกิดความรอบคอบรัดกุมให้ชัดเจนในการให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาร่วมกันทำหน้าที่โหวตให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เสียทีครับ