วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 เวลา 23:59 น.
ตำรวจไซเบอร์จับขบวนการซื้อขาย บัญชีม้า-ซิมม้า จ.ขอนแก่น ตัดวงจรหลอกลวงออนไลน์
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตํารวจไซเบอร์ สั่งการให้ตํารวจไซเบอร์ทุกกองบังคับการ เร่งติดตามจับกุมคนร้ายคดีอาชญากรรมออนไลน์ทุกประเภท ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคดีออนไลน์ต่างๆ มักมีการใช้บัญชีม้า ซิมม้า ในการหลอกลวงพี่น้องประชาชน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ตํารวจไซเบอร์เร่งกวาดล้างจับกุมบัญชีม้า ซิมม้า เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจํานวนมาก
ล่าสุด พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จําปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 สั่งการ จับกุมผู้ต้องหาบัญชีม้าในพื้นที่ จ.ขอนแก่น หลังสืบทราบว่ามีขบวนการซื้อขายบัญชีธนาคารผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยพบว่าขบวนการดังกล่าวจะมีมิจฉาชีพใช้บัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ “ขายบัญชี” จําหน่ายบัญชีธนาคาร พร้อมซิมโทรศัพท์มือถือแบบลงทะเบียนแล้ว หากมีผู้สนใจมิจฉาชีพก็จะให้แอดไลน์ ชื่อ “timeout” เพื่อแชตพูดคุยขายบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรกดเงินสด (ATM) และซิมโทรศัพท์มือถือพร้อมใช้งาน ในราคา 5,000 บาท จากนั้นหากผู้สนใจตกลงซื้อ มิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็จะให้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการอีกคนใช้ชื่อว่า “นัท” ซึ่งเป็นคนประสานหาคนเปิดบัญชีม้า และซิมม้าพร้อมใช้ เพื่อนํามาจําหน่ายต่ออีกทอด
เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.1 บก.สอท.3 นําโดย พ.ต.ท.ประภาส ถ้ำเหม รอง ผกก.1 บก.สอท.3 และ ร.ต.อ.วิชัย จําปา รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 สืบสวนและวางแผนจับกุม โดยติดต่อซื้อบัญชีธนาคาร บัตรกด เงินสด และซิมโทรศัพท์มือถือพร้อมใช้งาน จากแก๊งดังกล่าว และมีการนัดหมายส่งมอบที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 2 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบ น.ส.ศิริรัตน์ นําสินค้ามาให้ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงแสดงตัว และจับกุม
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ศิริรัตน์ให้การว่า ได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีครั้งละ 700 บาท ส่วนซิม โทรศัพท์มือถือได้ไปซื้อจากร้านสะดวกซื้อและลงทะเบียนเป็นชื่อตนพร้อมใช้งาน ซึ่งทํามาแล้ว 5 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงแจ้งข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงิน อิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สําหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนําไปใช้ในการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
พ.ต.อ.อภิรักษ์กล่าวว่า การจับกุมกวาดล้างซิมม้า บัญชีม้า ถือเป็นการตัดวงจรการหลอกลวง ออนไลน์ เพราะเป็นฐานรากต้นตอของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ตํารวจไซเบอร์จะติดตาม จับกุมทั้งขบวนการมาดําเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เตือนพี่น้องประชาชนหากบัญชีธนาคาร หรือซิมโทรศัพท์มือถือที่ท่านให้ หรือขายให้บุคคลอื่น ถูกนําไปใช้ในการกระทําความผิด ท่านอาจจะถูกดําเนินคดีในฐานะเป็นตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุนในการกระทําความผิด และหากรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือซิมม้าจํานวนมาก จะต้องรับโทษเพิ่มขึ้นตามจํานวนบัญชีธนาคารและซิมโทรศัพท์มือถือที่ได้ให้บุคคลอื่นนําไปใช้ในการกระทําความผิด
ทั้งนี้ หากประชาชนเคยหลงเชื่อขายซิมโทรศัพท์มือถือ หรือบัญชีธนาคาร ให้กับบุคคลอื่น ขอให้รีบไปติดต่อกับค่ายโทรศัพท์มือถือหรือธนาคารของตน เพื่อขอยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์หรือปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวโดยเร็ว และหากพบเห็นการประกาศรับซื้อซิมโทรศัพท์มือถือหรือบัญชีธนาคาร แจ้งได้ที่สายด่วนตํารวจ ไซเบอร์ 1144 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ