วานนี้ (21 มิ.ย.66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. จับกุมตัวนายฐิติวัฒน์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา“ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่นักมวย หรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยทำการล้มมวย”

คดีนี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 ค่ายมวย อ.อัจฉริยะ ได้ส่ง เสาเอก อ.อัจฉริยะ ขึ้นชกกับ ดีเซลเล็ก บิ้วเจซี ในการชกศึกยินดีเพชร ในพิกัด 122 ปอนด์ ณ เวทีมวยราชดำเนิน ก่อนการแข่งขันเซียนมวยและนักวิจารณ์ วิเคราะห์ว่าจากทั้งสถิติและฝีมือ ชั้นเชิงในการชกที่ผ่านมา เสาเอกฯ มีโอกาสเป็นฝ่ายชนะมากกว่า เมื่อถึงเวลาการแข่งขันมีการชกกันทั้งหมด 5 ยก

ระหว่างการ แข่งขันในช่วงยกที่ 1-3  เสาเอกฯ ได้ออกอาวุธและป้องกันตามปกติเหมือนฟอร์มการชกที่ผ่านมา และเป็นฝ่ายออกอาวุธได้มากกว่า จนเริ่มชกยกที่ 4 และ 5  เสาเอกฯ ไม่ค่อยออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้และไม่พยายามป้องกันตอนที่คู่ต่อสู้ออกอาวุธใส่ จนช่วงยกดังกล่าวถูกคู่ต่อสู้ออกอาวุธทำคะแนนได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อจบการแข่งขันยกที่ 5 ผลปรากฏว่า เสาเอกฯ เป็นฝ่ายแพ้คะแนน โดยเซียนมวยวิจารณ์ว่าพฤติกรรมการชกของ เสาเอกฯ ผิดจากการชกปกติ และมีข่าวว่ามีการแทงพนันฝั่งตรงข้ามเสาเอกฯ ด้วยเงินจำนวนมาก ในลักษณะที่รู้ว่า เสาเอกฯ จะเป็นฝ่ายแพ้ ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน

ต่อมา ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า นายฐิติวัฒน์มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้จูงใจ ให้นักมวยทำการล้มมวย จึงได้รวบรวมหลักฐาน และขอหมายจับ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนักมวย และเป็นญาติกับเสาเอกฯ ในอดีตก็เคยเป็นนักมวยมาก่อน และได้รับการติดต่อจากเซียนมวย ชื่อย่อ ต. ให้ไปคุยกับเสาเอกฯ โดยจะมอบเงินค่าตัวเสาเอกฯ 250,000 บาท และตนจะได้รับค่าตอบแทนอีก 50,000 บาท เมื่อเสาเอกฯ ตกลงว่าจะล้มมวย ตนจึงได้แจ้งให้เซียนมวยทราบ

“เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันและรู้ว่าเสาเอกฯ ถูกจับได้ว่า ล้มมวย เซียนมวยได้ให้คนมารับตนหลบไปอยู่ที่ภาคอีสานเป็นเวลากว่า 1  สัปดาห์ โดยเซียนมวยคนดังกล่าวได้หาที่พักให้และออกค่าใช้จ่ายในการดูแล เซียนมวยยังกำชับว่า เมื่อกลับไปแล้ว ห้ามซัดทอด พร้อมส่งเงินมาให้อีกหลายครั้ง” โดยล่าสุดได้ให้เงินตนเองเมื่อประมาณ 2-3 วันก่อนถูกจับกุม นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “กลุ่มของขบวนการล้มมวยซึ่งนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่วงการกีฬาของประเทศไทย ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติ โดยขณะนี้ทาง สืบนครบาลได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลการจับกุมขบวนการเหล่านี้ให้หมดไป โดยหากตรวจพบว่ากลุ่มบุคคลใด มีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทุกราย”