วันที่ 14 มิถุนายน 2566 เวลา 05:47 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2566
>> หนุ่มชาวรัสเซีย ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อที่จอดติดไฟแดง ทำให้เสียชีวิต
06.00 น. สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันและมีผู้เสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท ช่วง 3 แยกไฟแดงวิบูลย์ธรรมรักษ์ ขาเข้าชลบุรี หมู่ 1 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ ชายชาวรัสเซีย อายุ 45 ปี (ชาวรัสเซีย) เสียชีวิตสภาพกระดูกแขนขาซี่โครงและคอหักคารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จีพีเอ็กซ์ สีน้ำเงิน ที่พุ่งชนติดท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว เป็นรถเทปูนตึกสูง สภาพพังยันเยิน ข้างรถ จยย.มีเครื่องเสียงบลูทูธ ของผู้ตายตกอยู่
สอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรม กล่าวว่า มาถึงสภาพศพก็อยู่แบบนี้เลย โดยมีเครื่องเสียงลำโพงบลูทูธ เปิดไว้เสียงดังลั่นเป็นเพลงสากล ตนก็เลยปิดไว้ก่อน
ทางด้านนายยุทธนา อายุ 42 ปี คนขับ เล่าว่า ตนขับรถบรรทุก 6 ล้อกำลังจะไปตั้งเครื่องเทปูนที่ตึกใหม่ ขณะจอดรถติดไฟแดง จู่ๆ รถ จยย.ของผู้ตายก็พุ่งชนท้ายเสียงดังโครม จึงลงมาดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ และเท่าที่ดูไม่มีรอยล้อรถ จยย.เบรกเลย
เบื้องต้นตำรวจจะได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
>> รถเก๋งเสียหลักชนต้นไม้ริมถนนสายวังทอง - เนินมะปราง สาววัย 25 ปีเสียชีวิตคาซากรถยนต์
09.12 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยบูรพา รับแจ้งอุบัติเหตุ ถนนสายวังทอง - เนินมะปราง บริเวณใกล้เคียงโรงงานแปรรูปยางพารา หมู่ที่ 4 บ้านหนองตะแบก ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
โดยที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล มาสด้า สีดำ แผ่นป้ายทะเบียน พิษณุโลก ลักษณะเสียหลักพุ่งชนเสาปูนและชนต้นไม้ข้างทาง ความรุนแรงทำให้มีผู้ขับขี่เสียชีวิต 1 คน ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ น.ส.สุชาวดี อายุ 25 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง
>> บช.ปส. แถลงการจับกุมขบวนการ ขนยาเสพติดรายสำคัญ 5 คดี 4 เครือข่าย
10.00 น. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงข่าวจับกุม เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 เครือข่าย 5 คดี พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน ยึดยาเสพติดเป็น ไอซ์ 650 กิโลกรัม , ยาบ้า 12 ล้านเม็ด , เคตามีน 30 กิโลกรัม
ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมยาเสพติดคดีสำคัญได้ 18 คดี คุมตัวผู้ต้องหาได้ 54 คน ยึดของกลางเป็นยาบ้า 20 ล้านเม็ด เฮโรอีน 220 กิโลกรัม ไอซ์ 3,250 กิโลกรัม จากนั้นยาเสพติดทั้งหมดจะถูกส่งไปตรวจพิสูจน์ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะถูกรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.ชินภัทร ระบุว่า ที่ผ่านมาการให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งเอกชนบางแห่งในการช่วยตรวจสอบสินค้าที่ถูกส่งในระดับหนึ่ง เราเข้าใจในเรื่องของการทำธุรกิจขนส่งให้มีความรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันมีการวางมาตรการไปแล้ว ตอนนี้อาจจะต้องมีการวางมาตรการกันใหม่ จากเคสที่เห็นไอซ์ 350 กิโลกรัม ใช้ที่อยู่อันหนึ่ง และประสานบริษัทรับส่งพัสดุให้ไปวางหน้าบ้านแห่งหนึ่ง พอวางเสร็จมีคนมารับของต่อไป ไม่ได้เป็นการส่งที่บ้าน ไม่มีคนเซ็นต์รับ ซึ่งเหตุการเช่นนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากนี้อาจจะต้องเชิญบริษัทขนส่งมาพูดคุยทำข้อตกลงกันใหม่ ขอย้ำว่ามีบางบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือเอาแต่ผลประโยชน์ ก็เข้าใจธุรกิจต้องการเรื่องเงิน แต่ก็ต้องช่วยสังคมโดยรวมด้วย
>> อดีตข้าราชการเกษียณ ยิงหลานเขย-หลานสาว ก่อนจ่อขมับตัวเองดับ ภายในบ้านพักย่านท่าดินแดง เซ่นปมมรดกเลือด
10.40 น. สน.สมเด็จเจ้าพระยา รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านหลังหนึ่ง ถนนท่าดินแดงสุดซอย 6 แขวงและเขตคลองสาน กทม.
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นปลูกแบบรั้วรอบขอบชิด พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา จอดอยู่ภายในมีผู้เสียชีวิต คือ นายกัลป์ อายุ 50 ปี ถูกยิงเสียชีวิตคาเบาะคนขับ ส่วนด้านในตัวบ้าน พบร่าง น.ส.กนกวรรณ อายุ 49 ปี เป็นน้องสาวของนายกัลป์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน เข้าที่ศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตอยู่บริเวณโถงทางเดินก่อนขึ้นห้องนอน ชั้นที่ 2
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอดิศักดิ์ อายุ 67 ปี เป็นพี่เขยของนายกัลป์ และ น.ส.กนกวรรณ หลังลงมือยิงน้องภรรยาทั้ง 2 ราย ได้เข้าไปเก็บตัวในห้องนอนชั้นล่าง ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน จ่อขมับยิงตัวเองตายตาม โดยมีอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างมือด้านขวาจำนวน 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 เปิดเผยว่า นายอดิศักดิ์ ผู้ก่อเหตุนั้น เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง และกำลังป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขย เคยมีเรื่องฟ้องร้องปมมรดกกับน้องภรรยาซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีปัญหาระหองระแหงภายในครอบครัวกันมานาน กระทั่งวันนี้ช่วงเช้าภรรยาของนายอดิศักดิ์ออกไปธุระนอกบ้าน กลับมาก็พบว่าสามียิงน้องชายและน้องสาวตัวเอง ก่อนจบชีวิตตามไปแล้ว
ซึ่งหลังจากนี้จะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้แพทย์นิติเวชดำเนินการผ่าชันสูตร และมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
>> สิบเอกวัย 37 ปี เครียดหนี้สินรุมเร้า รมควันดับคาห้องพัก ย่านราชเทวี
12.40 น. สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต ภายในห้องพัก แฟลตกองพันทหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.
ที่เหตุเกิด ห้องพักบนชั้นที่ 4 พบร่างของ ส.อ.อิทธิพล อายุ 37 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ ข้างตัวพบเตาถ่านในสภาพถ่านดับมอดแล้ว จากการสอบสวนญาติและเพื่อนสนิทของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายมีตำแหน่งเป็นช่างประปา แผนกยุทธโยธา โดยก่อนเกิดเหตุได้มีการปรับทุกข์กับเพื่อนร่วมงานว่า อยากตายเนื่องจากมีปัญหาเรื่องหนี้สิน ก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าวในวันนี้ โดยทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนส่งร่างไปชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
>> กกต.แจงกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 151 ผู้สมัคร ส.ส.รู้ตัวว่าขาดคุณสมบัติ แล้วฝืนสมัคร มีโทษจำคุก เพิกถอนสิทธิ
13.38 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่ข้อกฎหมาย หากรู้ว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลอย่างไร โดยผู้รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ และผู้รู้อยู่แล้วว่าตนมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมือง เสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดถึง 20 ปี ตามมาตรา 151 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) 2566
ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เป็นที่สนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกรณีการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกลว่าขาดคุณสมบัติจากกรณีดังกล่าวหรือไม่
>> หลานทรพี เสพยาแล้วหลอน คว้ามีดปาดคอและแทงยายดับ แม่ลั่นไม่ให้อภัยเด็ดขาด
14.46 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุชายจนคลั่งใช้อาวุธมีดแทงคนทำให้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านในพื้นที่หมู่ 9 บ้านตูม ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ต่อมาผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวไว้ได้
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบร่างของ นางอาษา (สงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ มีบาดแผลถูกของมีคมปาดเข้าที่ลำคอ และแทงตามร่างกาย นอกจากนี้ยังพบคราบเลือดและมีปลายแหลมตกอยู่ 1 เล่ม ขณะเดียวกันยับพบรอยลากเป็นคราบเลือดเข้าไปในห้องน้ำ
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายศิริ อายุ 28 ปี หลานชายของผู้ตาย ยังอยู่ในอาการมึนเมาพูดไม่รู้เรื่อง โดยมีนายไพบูลย์ โต อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านตูม และชาวบ้านช่วยกันจับกุมไว้ แล้วใช้เชือกมัดมือไขว้หลังนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณหน้าบ้าน จากการตรวจค้นห้องของนายศิริ พบยาบ้า 2 เม็ด และอุปกรณ์การเสพพร้อมกัญชาจำนวนหนึ่ง
ทางด้าน นางจันทร์เพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ลูกสาวของผู้ตายและเป็นแม่ของ นายศิริ เปิดเผยว่า ลูกชายเคยมีภรรยาและลูก 1 คน แต่ภรรยาหอบลูกหนีไป 7-8 เดือนแล้ว ทำให้ลูกชายหันมาเสพยาบ้าจนมีอาการหลอน ไม่ยอมไปทำงาน จนคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหนีหมดกลัวจะไม่ปลอดภัย ก่อนเกิดเหตุลูกชายเสพยาบ้าและกัญชาจนมีอาการหลอน 3 วัน ตนกลัวจึงหนีไปเช่าห้องอยู่ ชวนแม่ไปอยู่ด้วย แต่แม่ไม่ยอมไป เพราะห่วงหลานชาย กระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว ตนเสียใจมากไม่ยอมให้อภัยลูกเด็ดขาด
>> หนุ่มไรเดอร์ ถูกคนร้ายจ่อยิงที่ศีรษะเสียชีวิต จนท.เร่งสอบสวน
18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน แล้วเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล บริเวณถนนเลียบวารี ปากซอยเลียบวารี 32 ถ.เลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม.
ที่เกิดเหตุพบร่าง นายอุ้ม อายุ 19 ปี นอนหงายใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะขวา มีเลือดไหลนองจำนวนมาก กู้ชีพศูนย์ราชพฤกษ์ และมูลนิธิอาสาหนองจอก ศูนย์ราชพฤกษ์ ช่วยกันปั๊มหัวใจแล้วนำตัวขึ้นรถกู้ชีพส่ง รพ.หนองจอก แต่เสียชีวิตระหว่างเดินทาง พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.หนองจอก เปิดเผยว่า เบื้องต้นไม่ใช่เหตุนักเรียนช่างยิงกัน ผู้เสียชีวิตไม่ได้เรียนหนังสือและมีอาชีพเป็นไรเดอร์ ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน พร้อมตรวจกล้องวงจรปิดโดยรอบเพื่อหาสาเหตุต่อไป
>> หนุ่มอินเดีย จมสระว่ายน้ำหมดสติในโรงแรมเมืองพัทยา อาสากู้ภัยเร่งทำ CPR แต่ไม่เป็นผล
20.30 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลจมน้ำ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในสระว่ายน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ ข้างขอบสระว่ายน้ำ มีพลเมืองดีช่วยเหลือผู้ชาย อายุ 44 ปี สัญชาติอินเดีย นำตัวขึ้นมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง อยู่ในอาการ หมดสติไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต ก่อนเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม เล่าว่า นักท่องเที่ยววิ่งไปตามว่า มีคนจมน้ำอยู่ในสระน้ำ จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปช่วยนำตัวขึ้นมา แล้วปั๊มหัวใจก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือดังกล่าว
ส่วนคนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนนั่งเล่นอยู่ เห็นผู้ชายดังกล่าวเล่นน้ำอยู่กับเพื่อนผู้หญิงสัญชาติเดียวกัน อยู่กลางสระน้ำ ก่อนชายดังกล่าวเหมือนดำผุดดำว่าย ตอนแรกคิดว่าเล่นกัน จนกระทั่งจมลงไป จึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือดังกล่าว
>> หนุ่มขี่รถจยย. เสียหลักชนเสาไฟฟ้า เสียชีวิต
21.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดอุบัติเหตุ ถนนพหลโยธิน บริเวณใกล้เคียง ซอยพหลโยธิน 87 ในพื้นที่ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยายนยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นาย พิเชษฐ อายุ 26 ปี พื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์
>> ไฟไหม้เต้นท์ขายอาหาร แล้วลุกลามห้องพัก และรถจักรยานยนต์ เสียหาย
22.01 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ เลขที่ 574 ซอยประชาอุทิศ 22 ถนนประชาอุทิศ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเต้นท์ผ้าใบขายอาหาร ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ภายในเต้นท์ขายอาหาร เพลิงลุกไหม้เต้นท์เสียหายทั้งหมด แล้วลุกลามอาคารข้างเคียงเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ลุกลามห้องนอน 1 ห้อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีเขียวดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 36 ตารางเมตร ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดแก๊สหุงต้มรั่วไหล ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยห้วยขวาง
>> ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ตร.คุมชายต้องสงสัย เป็นมือจุดไฟเผาบ้าน
22.14 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยพหลโยธิน 52 แยก 11 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
เป็นที่พักอาศัย ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 30 ตารางวา ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัย 1 ราย คาดว่าจะเป็นคนลงมือจุดไฟเผาบ้าน ไปสอบสวนต่อที่ สน.บางเขน
>> หนุ่มขี่รถจยย. ชนกับรถเทรลเลอร์ เสียชีวิตบนสะพานภูมิพล 1
22.54 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับรถเทรลเลอร์ บริเวณกลางสะพานภูมิพล 1 ขึ้นจากฝั่งถนนพระราม 3 มุ่งหน้าสุขสวัสดิ์
โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ชนกับรถเทรลเลอร์ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน กทม. ความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต ชาย 1 คน ทราบชื่อ นาย สาธิต อายุ 59 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระปะแดง
>> รถกระบะ เสียหลักตกร่องน้ำข้างทางริมถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ คนขับถูกเหล็กรั้วกั้นทางทะลุรถเสียบเข้าหน้าท้อง เสียชีวิต
02.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะ ตกข้างทาง ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้า ก่อนถึงถนนศรีนครินทร์ ประมาณ 1 กม. ในพื้นที่ สน.ประเวศ กทม.
โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักตกร่องน้ำข้างทาง ความรุนแรงทำให้รั้วเหล็กกั้นทาง แทงทะลุภายในตัวรถ แล้วเสียบเข้าที่ช่องท้องของคนขับทำให้เสียชีวิต เบื้องต้นเป็นผู้ชาย ทราบชื่อ นาย มานัส อายุประมาณ 41 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ
>> แผ่นดินไหว ที่ประทศเมียนมา
03.33 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.1 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมาศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 82 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 14 มิถุนายน 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 690,306,219 ราย รักษาอาการดีขึ้น 662,769,240 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,890,753 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 107,188,887 ราย เสียชีวิต 1,166,713 คน (เพิ่มขึ้น 50 คน
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,992,788 ราย เสียชีวิต 531,892 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 40,116,548 ราย เสียชีวิต 167,508 คน (เพิ่มขึ้น 28 คน)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,428,685 ราย เสียชีวิต 174,352 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,625,916 ราย เสียชีวิต 703,291 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)
20 กรกฎาคม 2568
20 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ