วันที่ 6 ธันวาคม 2568 เวลา 17:05 น.
เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พล.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย พ.ต.อ.ศุภชัย ศรีศักดิ์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี ได้เดินทางมาเพื่อประชุมร่วมกับ ตำรวจสืบสวน บก.สส.ภ.1 ตำรวจสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี ตำรวจสืบสวน สภ.บางกรวย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต นายณัฐวุฒิ ปงลังกา อายุ 35 ปี ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าว ช่อง 8 หลังแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าชันสูตรศพพบสารไซยาไนด์ ในร่างกาย เป็นสาเหตุการเสียชีวิต
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังใช้เวลาประชุมเกือบ 1.30 ชม. ระบุว่า วันนี้ในการประชุมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค1 และ ตำรวจจังหวัดนนทบุรี เพื่อสรุปในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับคดี นักข่าวเสียชีวิต และตรวจพบสารไซยาไนด์ตามที่เป็นข่าว โดยวันนี้ได้มีการประชุมทีมสอบสวนและมีการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน ซึ่งจะสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งหมดในคืนเกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เข้าไปหลังเกิดเหตุ รวมพยานที่ต้องสอบตอนนี้ 5 ปาก
นอกจากนั้นในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.68) เวลา 12.00 น. จะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจพยานหลักฐานซ้ำ โดยจะมีการหาหลักฐานเกี่ยวกับสารไซยาไนด์ นอกจากนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุเพื่อหาพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ
สำหรับกรณีการสืบสวน มีการแบ่งหน้าที่ โดยแยกหาแหล่งที่มาของสารไซไนด์ โดยนัดสอบเพื่อนทั้ง 4 คนในที่เกิดเหตุเวลา 10.00 น. และนัดสอบพยานที่เข้าไปหลังเกิดเหตุอีก 1 คน เวลา 12.00 น. ซึ่งบุคคลผู้นี้รู้เรื่องเกี่ยวกับสารดังกล่าวว่ามีอยู่ในบ้าน คาดว่าพยานหลักฐานจะชัดเจนขึ้นในวันพรุ่งนี้
สำหรับเวลาในการตายที่แน่นอนจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเวลา 04.00 น. กว่า ผู้เสียชีวิตยังสามารถเดินออกมาทิ้งขยะได้ นอกจากนี้จะมีการเรียกสอบแพทย์ในเรื่องของสารที่นำเข้าไปสู่ในร่างกาย ว่ามีผลทำให้ตายทันทีหรือไม่
นอกจากนี้จะสอบพยานที่ออกจากที่เกิดเหตุและการกลับเข้ามาซึ่งยืนยันว่าผู้เสียชีวิตยังมีการนอนกรนอยู่ โดยทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน
นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สำหรับผลการพิสูจน์อย่างละเอียดจะออกอีกภายใน 7 วัน
สำหรับบุคคลที่นำหลักฐานออกจากที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิสูจน์อีกครั้งว่ามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งตนคิดว่าหลักฐานน่าจะอยู่ในภาพวงจรปิดทั้งหมด หลังจากตรวจสอบแล้ว ถ้าพบว่ามีความผิด จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา ตนคิดว่าน่าจะมีการปกปิดอะไรบางอย่าง
คดีนี้จากที่ดูไม่น่าจะมีความซับซ้อน คือต้องพิสูจน์ได้ว่าสารนั้นเข้าไปในร่างกายได้อย่างไร นำเข้าไปเอง หรือมีผู้ทำให้เสียชีวิต สำหรับสารไซยาไนด์จะมีการสืบสวนขยายผลว่ามาจากไหนและมาได้อย่างไร คิดว่าคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุน่าจะทราบ
ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยและกู้ชีพที่เข้าไปเจอศพครั้งแรกจะมีการเรียกสอบเพิ่มเติม เรื่องพินัยกรรมก็มีการตั้งประเด็นให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน

