นายกรัฐมนตรี เผย ครม.ไฟเขียว แก้หนี้ลูกค้ารายย่อยยอดไม่เกิน 5,000 บ.ปิดได้เลย -เงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เริ่ม 16 ธันวาคมนี้

วันนี้ (11 ธ.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า  ครม. มีมติ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอให้เยียวยาลูกหนี้รายย่อย และ ผู้ประกอบการวิสาหกิจหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม หรือ SME โดยมีมาตรการช่วยเหลือ ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนมากขึ้น

ส่วดการลดภาระชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ เน้นการปรับเงินต้น และยกเว้นดอกเบี้ย เมื่อลูกหนี้ปฏิบัติตามเงื่อนไข พร้อมทั้งการให้โอกาสลูกหนี้ที่มีหนี้เสีย (NPL) ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ ปรับปรุงประวัติการชำระหนี้ เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในอนาคตได้ นอกจากนี้ มีสถาบันการเงินเฉพาะกิจช่วยเหลือลูกหนี้เปราะบาง ที่ชำระหนี้ดี รวมทั้งลูกหนี้ที่มีปัญหาเรื้อรัง การช่วยเหลือลูกหนี้ Non-Bank โดยลดภาระผ่อนชำระค่างวดเหลือ 70% ลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 (ดอกเบี้ย 25% เหลือ 15% ต่อปี)

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ  การพิจารณาอนุญาต และให้บริการแก่ประชาชน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพให้กับพี่น้องประชาชนที่มาขอใบอนุญาต โดยการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ปรับปรุงระบบขั้นตอนการขออนุญาต ตลอดจนการให้ใช้ใบอนุญาต Super license จัดตั้งศูนย์รับคำขอในหน่วยงานรัฐ และคำขออื่นที่อาจใช้ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก

คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตร ฯ และกระทรวงการคลัง เสนอปรับปรุงโครงการแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกร สมาชิกกองทุนฟื้นฟู และลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง โดยให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกฯ โดยมีผู้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการตอนนี้มี 16,794 ราย โดยจะอยู่ภายในกรอบวงเงินที่เคยผ่าน ครม.มาแล้ว คือ 15,481.66 ล้านบาท พร้อมได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงการคลัง หลังจากมีมติเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เรื่องโครงการสนับสนุนภาคบริหาร จัดการผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีผลิต 2567/2568 เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและสามารถดำรงชีพอยู่ได้ รวมทั้งลดต้นทุนให้กับเกษตรกรจะได้มีกำไรเพิ่มมากขึ้น โดยไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือ 10,000 บาท โดยกระทรวงการคลังจะเริ่มจ่ายให้กับเกษตรกรจำนวน 4,300,000 ราย งบประมาณ 35,000 ล้านบาท โดยเริ่มในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม ใช้เวลาภาคละ 5 วัน